รีเซต

เปิดเรื่องจริง! "ครูณัฐ" ครูกลางป่าสอนชาวมานิ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา

เปิดเรื่องจริง! "ครูณัฐ" ครูกลางป่าสอนชาวมานิ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา
TNN ช่อง16
12 เมษายน 2565 ( 08:53 )
358
เปิดเรื่องจริง! "ครูณัฐ" ครูกลางป่าสอนชาวมานิ ลดความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา



วันที่ 11 เมษายน 2565   เฟสบุ๊คชื่อ  “ครูณัฐ จิตอาสาทำดีด้วยใจ” ได้โพสต์คลิปเด็ก ๆ กลุ่มชาติพันธุ์ชาวมานิที่ช่วยกันอ่านอักษรและพยัญชนะภาษาไทย  ส่งเสียงกันแบบชัดถ้อยชัดคำ  


ซึ่งเป็นผลงานที่สุดภาคภูมิใจของ  “ครูณัฐ”   หรือ ครูณัฐนันท์   โอมเพียร  อายุ  56  ปี คุณครูสอนวิชาภาษาไทยโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองละงู จังหวัดสตูล  ที่ใช้ช่วงเวลาเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตกฤษขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปกลับร่วม 100  กิโลเมตรไม่รวมการเดินเท้าเข้าป่าเพื่อไปหาเด็ก ๆ ชาวมานิ  พร้อมอุปกรณ์การสอน     ซึ่งอยู่บนเนินเขาในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด   ซึ่งต้องจอดรถและเดินเท้าเข้าไปสอนถึงทับ  หรือที่พักของชาวมานิ  โดยใช้พื้นที่ลานกลางที่พักชองชาวมานิ   ภายในป่าเป็นห้องเรียนเคลื่อนที่   ซึ่งเป็นอยู่อย่างนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา 





โดย  “ครูณัฐ”   มีความตั้งใจว่าอยากจะช่วยปูพื้นฐานด้านการศึกษาให้เด็ก ๆ ชาวมานิ เพื่อส่งต่อเข้าระบบการศึกษาในระดับชั้นต่อไป  โดยเห็นศักยภาพของเด็ก ๆเหล่านี้   เพียงแค่เราต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับเขาก่อน  โดยมีครอบครัวและเด็กก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี   โดยสิ่งที่ครูณัฐมุ่งหวังคือ เด็ก ๆ เหล่านี้ได้เข้าสู่ระบบการศึกษาภาคบังคับเหมือนเด็ก ๆ ทั่วไป  แต่นั่นมีถึงความจริงใจของทุกฝ่ายในการเข้ามาช่วยเหลือและรับรู้ข้อจำกัดของพวกเขาเท่านั้น 



วิชาที่  “ครูณัฐ”  สอน จะเป็นวิชาภาษาไทย และคณิตศาสตร์ เพื่อปูพื้นฐานในการอ่านออก และเขียนได้ รวมทั้งการนับเลขได้ เพื่อสื่อสาร และป้องกันการถูกหลอกจากคนไม่หวังดี  นอกจากนี้  การละเล่นเพื่อละลายพฤติกรรม จะยิ่งสร้างความสนิทสนมและได้รับความร่วมมือกับครอบครัวและเด็ก ๆ ชาวมานิได้เป็นอย่างดี  ซึ่งครูณัฐ บอกว่าจะสอนไปแบบนี้จนกว่าเรียวแรงจะหมดไป 




นายคะนึง  จันทร์แดง อายุ 71  ปี บุคคลอีกคนที่ชาวมานิให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ   บอกว่า  ยอมรับในน้ำใจของครูณัฐ  ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยใช้เวลาเสาร์ อาทิตย์  ขี่รถจยย.มาจากตัวเมืองละงู ระยะทางไปกลับร่วม 100 กิโลเมตร โดยไม่มีค่าจ้าง มาด้วยหัวใจ  ที่ต้องการช่วยเหลือด้านการศึกษาจากใจจริงเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนหนังสือ  ยอมรับและนับถือในน้ำใจว่าเป็นครูจิตอาสาตัวจริง ที่ทำเพื่อคนอื่น 



สำหรับเด็ก ๆ เยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมานิ กลุ่มนี้น้อยมากจนแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ ในการเข้าถึงระบบการศึกษา ด้วยจำกัดในเงื่อนไข สภาพทางครอบครัว พื้นที่ห่างไกล   การจะส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนในหมู่บ้านจึงเป็นเรื่องยากทำสำหรับพวกเขา หากภาครัฐไม่จริงใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเหล่านี้ให้เข้าถึงระบบการศึกษา ที่พวกเขาควรจะได้รับเหมือนกับเด็ก ๆ ทั่วไป 


ภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.สตูล 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง