รวบหนุ่มใหญ่ สุดห้าว! ฉีกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คาคูหา บอกสาเหตุที่ทำแบบนั้น
รวบหนุ่มใหญ่ วัย 49 สุดจะห้าว! ฉีกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คาคูหาเลือกตั้งท้องถิ่น จ.อุดรธานี เผยสาเหตุที่ทำแบบนั้น ท้า อยากจะจับ ก็เชิญจับไปเลย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมฤทธิ์ โสดาศรี กำนันตำบลเชียงพิณ ในฐานะประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกที่ 6 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้ควบคุมตัวนายสุพจน์ โพธิ์ศรี อายุ 49 ปี ที่ได้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังจากเข้าคูหา
และได้รับบัตรเลือกตั้งทั้ง นายก อบจ.และ ส.อบจ.แล้วได้ฉีกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พร้อมแจ้งนายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ ผู้ตรวจการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี และนายกิตติคุณ ศิริโยธา ผอ.กกต.อุดรธานี ตำรวจ ให้เดินทางมาตรวจสอบ และควบคุมตัวไปดำเนินคดี
นายสุพจน์ฯ ให้การว่า ก็รู้อยู่ว่าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง นายก อบจ.และ ส.อบจ. จึงได้เดินทางมาใช้สิทธิ์ของตัวเอง แต่เมื่อ 2-3 วัน ก่อนหน้านี้ ได้คิดล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะฉีกบัตรเลือกตั้ง เพราะว่าไม่ชอบผู้สมัครคนใดเลย ไม่เลือกใคร เพราะไม่ดีซักคน จึงฉีกบัตรทิ้ง เมื่อคืนนี้ได้กินเหล้า แต่วันนี้ไม่ได้กินเหล้ามา เคยเลือกตั้งมาหลายครั้งแล้ว อยากจับก็จับไปเลย
นายกิตติคุณ ศิริโยธา ผอ.กกต.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการหน่วยเลือกตั้ง ว่ามีชายทำการฉีกบัตรเลือกตั้งทั้งนายก อบจ.และส.อบจ. ทั้ง 2ใบ เบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการ นำตัวไปส่งพนักวานสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีข้อหา
“ทำบัตรเลือกตั้งที่คณะกรรมการประจำหน่วยให้นั้น ชำรุดหรือเสียหาย ในมาตรา121 ของ พรบ.การเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ.2562มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท” แต่ถ้ามีเจตนาทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม จะมีโทษปรับ1แสนบาท จำคุก และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนก่อนว่ามีเจตนาอย่างไรเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน
ผอ.กกต.อุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ฝากเตือนประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ถ้าในกรณีคือการทำรายทรัพย์สินทางราชการ ถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ประสงค์เลือกผู้ใด ในบัตรเลือกตั้งมีช่องไม่เลือกผู้สมัครท่านใด ก็สามารถกากในช่องนั้นได้
ในส่วนเรื่องร้องเรียนการกระทำความผิดก็มีบ้าง ในเรื่องการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งประมาณ 5-6 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแจกสิ่งของ แจกเงิน ซึ่งจะได้มีการสอบสวนและส่งเรื่องไปยัง กกต.กลาง เพื่อดำเนินการต่อไป