รีเซต

นิวซีแลนด์เตรียมห้ามขาย "บุหรี่" ไม่ให้เยาวชนรุ่นใหม่สูบตลอดชีวิต

นิวซีแลนด์เตรียมห้ามขาย "บุหรี่" ไม่ให้เยาวชนรุ่นใหม่สูบตลอดชีวิต
ข่าวสด
9 ธันวาคม 2564 ( 15:00 )
98
นิวซีแลนด์เตรียมห้ามขาย "บุหรี่" ไม่ให้เยาวชนรุ่นใหม่สูบตลอดชีวิต

นิวซีแลนด์เตรียมห้ามขาย - วันที่ 9 ธ.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า นิวซีแลนด์เตรียมห้ามคนรุ่นใหม่ซื้อบุหรี่ตลอดชีวิต โดยผู้มีอายุ 14 ปี และต่ำกว่านั้น ตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป จะไม่ได้รับอนุญาตซื้อบุหรี่ในประเทศแห่งนี้ที่มีประชากร 5 ล้านคน อันเป็นหนึ่งส่วนหนึ่งของข้อเสนอรัฐบาลที่จะะลดจำนวนร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตจำหน่ายบุหรี่ และลดระดับนิโคตันในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นหนึ่งในการปราบปรามอุตสาหกรรมยาสูบที่เข้มงวดที่สุดในโลก โดยรัฐบาลนิวซีแลนด์อ้างว่า ความพยายามอื่นๆ ในการลดบุหรี่ใช้เวลานานเกินไป

 

"เราต้องการทำให้แน่ใจว่าคนหนุ่มสาวจะไม่เริ่มสูบบุหรี่เลย ดังนั้น เราจะทำให้การขายหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ยาสูบรมควันแก่เยาวชนรุ่นใหม่เป็นความผิดตามกฎหมาย หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะต้องใช้เวลาหลายทศวรรษจนกว่าอัตราการสูบบุหรี่ของชนพื้นเมืองเมารีจะลดลงต่ำกว่า 5% และรัฐบาลชุดนี้ไม่พร้อมที่จะทอดทิ้งประชาชน" ดร.อาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ระบุในแถลงการณ์

 

มาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคัยใช้เป็นระยะๆ ตั้งแต่ปี 2567 โดยเริ่มจากการลดจำนวนผู้จำหน่ายบุหรี่ที่ได้รับอนุญาตลงอย่างมีนัยสำคัญ ตามด้วยข้อกำหนดนิโคตินที่ลดลงในปี 2568 และการสร้างคนรุ่นใหม่ "ปลอดควัน" ตั้งแต่ปี 2570

 

มาตรการดังกล่าวจะทำให้อุตสาหกรรมยาสูบค้าปลีกของนิวซีแลนด์กลายเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกจำกัดมากที่สุดในโลก รองจากภูฏานที่ห้ามขายบุหรี่โดยเด็ดขาด ส่วนออสเตรเลีย เพื่อนบ้านนิวซีแลนด์ เป็นประเทศแรกในโลกที่บังคับใช้บรรจุภัณฑ์บุหรี่แบบธรรมดาในปี 2555

 

ตัวเลขของรัฐบาลชี้ว่า ร้อยละ 11.6 ของชาวนิวซีแลนด์ ที่มีอายุมากกว่า 15 ปี เป็นคนสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29 ในหมู่ผู้ใหญ่ชนพื้นเมืองเมารี โดนรัฐบาลนิวซีแลนด์จะปรึกษาหารือกับคณะทำงานสาธารณสุขของชนพื้นเมืองเมารีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนจะนำกฎหมายเข้าสู่รัฐสภาในเดือนมิ.ย.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในสิ้นปี 2565

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลนิวซีแลนด์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า กฎใหม่ดังกล่าวจะถูกบังคับใช้อย่างไรและจะถูกนำไปใช้กับผู้มาเยือนจากต่างประเทศหรือไม่และอย่างไร

 

รัฐบาลนิวซีแลนด์ระบุว่า แม้ว่ามาตรการต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว เช่น บรรจุภัณฑ์บุหรี่แบบธรรมดา และการเก็บภาษีจากการขาย จะทำให้การบริโภคยาสูบชะลอตัวลง แต่ขั้นตอนที่เข้มงวดกว่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายให้จำนวนประชากรที่สูบบุหรี่ทุกวันเหลือน้อยกว่าร้อยละ 5 ภายในปี 2568 โดยกฎใหม่ดังกล่าวจะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ของประเทศลงครึ่งหนึ่งในเวลาเพียง 10 ปี นับตั้งแต่วันที่มีผลบังคับใช้

 

รัฐบาลนิวซีแลนด์ระบุอีกว่า การสูบบุหรี่คร่าชีวิตปีละราว 5,000 ราย ในประเทศ กลายเป็นหนึ่งในสาเหตุอันดับต้นๆ ในการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ของประเทศ และผู้สูบบุหรี่ 4 ใน 5 คน เริ่มสูบบุหรี่ก่อนอายุ 18 ปี

 

"คลื่นอาชญากรรม"

ด้านแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขอื่นๆ ในประเทศยินดีการปฏิรูป "นำหน้าโลก" ซึ่งจะลดการเข้าถึงยาสูบและจำกัดระดับนิโคตินในบุหรี่ด้วย โดยนพ.อลิสแตร์ ฮัมฟรีย์ ประธานสมาคมการแพทย์แห่งนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์ การสูบบุหรี่ทำให้ชาวนิวซีแลนด์เสียชีวิตวันละ 14 ราย และ 2 ใน 3 รายที่สูบบุหรี่จะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่

 

"แผนปฏิบัติการนี้ของรัฐบาลให้ความหวังในการบรรลุเป้าหมายเอาเตอารัวปลอดบุหรี่ในปี 2568 (2025 Smokefree Aotearoa goal: Aotearoa หมายถึงชื่อประเทศนิวซีแลนด์ที่ชาวเมารีเรียก) และทำให้ทามาริกิ (เด็กชาวเมารี) ปลอดบุหรี่" อลิสแตร์ ฮัมฟรีย์กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อธุรกิจของตน และเตือนถึงการเกิดขึ้นของตลาดมืด โดย Dairy and Business Owners Group ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้สำหรับร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่น หรือที่รู้จักในนิวซีแลนด์ในชื่อ "โรงรีดนม" กล่าวว่า แม้ว่าแผนของรัฐบาลจะสนับสนุนให้ประเทศปลอดบุหรี่ แต่จะทำลายธุรกิจจำนวนมาก

 

ซันนี คิวชัล ประธานกลุ่มให้สัมภาษณ์ Stuff.co.nz ว่า "นี่คือทฤษฎีทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เนื้อหา (ปฏิบัติ) เป็นศูนย์ จะมีคลื่นอาชญากรรม กลุ่มอาชญากรและอาชญากรจะเติมสิ่งที่ขาดหายไปด้วยบ้านเรือนที่จำหน่ายบุหรี่"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง