MGCลุยส่งมอบรถ2พันคัน โค้งสองดียอดขายอีวีหนุน

#MGC #ทันหุ้น-MGC คาดผลดำเนินงานไตรมาส 2/68 ยังเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้ มีปัจจัยสนับสนุนจากยอดส่งมอบรถยนต์ (Backlog) ที่มีประมาณ 2 พันคัน ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว วางแผนจะมีการปรับพอร์ตในธุรกิจรถเช่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ คาดการณ์ว่าอัตรากำไรในปี 2568 เติบโตจากปีก่อน จากการควบคุมต้นทุนและการบริหารที่ดี รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจด้านการเงิน และประกันที่ยังมีการเติบโตช่วยหนุน
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด(มหาชน) หรือ MGC คาดว่าผลดำเนินงานไตรมาส 2/2568 จะยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกปีนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากการที่สหรัฐได้ปรับเพิ่มภาษีการนำเข้าในหลายประเทศ ทำให้กำลังซื้ออ่อนตัวลง แต่ปัจจุบันนี้บริษัทมีรถยนต์รอส่งมอบหรือ Backlog ประมาณ 2 พันคัน จะเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทมีการเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวม
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 678% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีรายได้รวมที่ 4,065 ล้านบาท ลดลง 10.1% ส่วน EBITDA อยู่ที่ 432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%
ยอดขายอีวีแบรนด์จีนหนุน
ช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัว จากปัญหาสงครามการค้า ส่งผลทำให้ยอดผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1/2568 ลดลง โดยเฉพาะรถยนต์ประเภทสันดาป แต่ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีการเติบโตอย่างมาก ซึ่งในส่วนนี้บริษัทก็ได้รับผลดีจากการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในแบรนด์ XPENG ซึ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม-เทค และ ZEEKR ยายนนต์ไฟฟ้าพรีเมียม-ลักชัวรี่ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากงาน The 46th Bangkok International Motor Show ที่มีการเปิดตัว XPENG X9 Premium ที่มียอดจองจำนวนมาก
ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว ทำให้ในไตรมาส 2/2568 บริษัทจะมีการปรับพอร์ตกลุ่มธุรกิจให้บริการรถเช่า และพนักงานขับ ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยใส่ใจรายละเอียด และควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งธุรกิจนี้บริหารภายใต้บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จำกัด หรือ MCR ให้บริการรถเช่าระยะยาว และบริษัท ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย จำกัด หรือ SIXT ผู้ให้บริการรถเช่าระยะสั้น สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้ยังมีการเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 20-25%
ดร.สัณหวุฒิ กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อรถยนต์ที่ลดลง และอาจทำให้รายได้ลดลง แต่ในส่วนของอัตรากำไรของบริษัทในปี 2568 นี้จะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการควบคุมต้นทุน และมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ธุรกิจส่วนอื่นที่บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรก็คาดว่าจะมีการเติบโตในปีนี้
โดยธุรกิจบริการด้านการเงิน ภายใต้การบริหารของบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด หรือ Alpha X ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) ที่มีพอร์ตสินเชื่อเติบโตมาอยู่ที่กว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอีกประมาณ 20-25% ทำให้พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 12,500 ล้านบาท ซึ่งจะรักษาส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ หรือ NIM ให้อยู่ในระดับที่ดี รวมถึงควบคุมต้นทุนการบริหารให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ Alpha X ได้วางแผนการเติบโต ตามแผนธุรกิจ 3 ด้าน คือ 1 การเติบโตด้วยธุรกิจ Wealth Lending ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง 2การควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ และ3.การจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ ด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถมีกำไรได้ตามแผนที่วางไว้
ในส่วนของธุรกิจประกันภายใต้การบริหารของบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด นั้น จะมุ่งเน้นออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะปัจจุบันนี้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงประเทศไทยมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น
อย่างรก็ดีก่อนหน้านี้ดร.สัณหวุฒิ ระบุว่า ในไตรมาส 2/2568 บริษัทเตรียมส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า XPENG กว่า 1,500 คัน ขณะที่ ZEEKR ก็มีแนวโน้มส่งมอบอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่นิยม ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 บริษัทมีสินค้ารอการส่งมอบ หรือ Backlog จำนวน 2,159 คัน แบ่งเป็น XPENG จำนวน 1,265 คัน, ZEEKR จำนวน 248 คัน, Rolls-Royce จำนวน 8 คัน, BMW จำนวน 179 คัน, MINI จำนวน 62 คัน, HONDA จำนวน 228 คัน, Harley-Davidson จำนวน 67 คัน และ BMW Motorrad จำนวน 102 คัน