GULFชิงโซลาร์ชุมชน 1.5 พันเมก COD6โครงการธ.ค.นี้

#GULF #ทันหุ้น - GULF รับสนใจชิงโซลาร์ชุมชน 1.5 พันเมกะวัตต์ ลั่นสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้มีกำไรได้  ส่วนการขยายระบบส่งหนุนในแถบ EEC หนุนขายไฟได้มากขึ้น  เดินหน้า COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 6 โครงการครบเดือนธันวาคม 2568 ตามแผน   จ่อประกาศงบไตรมาส 3/2568 วันที่  6 พฤศจิกายน 2568  แจงมีสิทธิ ซื้อ หรือ ขายหุ้น KBANK

นางสาวยุพาพิน  วังวิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลเดินหน้าโครงกสร้างโรงโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์นั้น ซึ่งทาง GULF สนใจ และพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมโครงการโซลาร์ชุมชนเช่นกัน  ส่วนอัตรารับซื้อไฟฟ้า (FiT) ที่ทางคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติ ที่ไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วยนั้น บริษัทก็สามารถบริหารจัดการต้นทุน เพื่อให้สามารถพอมีกำไรได้

@หนุนขายไฟมากขึ้น

ส่วนเรื่องที่การขยายระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ EEC  นางสาวยุพาพิน   กล่าวว่า การขยายสายส่งในพื้นที่ EEC เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทที่ประกอบธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์เข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC หลายราย  โดยหากมีการขยายสายส่งในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะส่งผลดีกับทาง GULF เช่นกัน เพราะ สามารถขายไฟฟ้าได้มากขึ้น ให้กับทางดาต้าเซ็นเตอร์

ทั้งนี้ บริษัท อีสานคลีน เทค จำกัด (ICT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 ผ่านบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE) และเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (Solar Farms) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 37.8 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง 49.8 เมกะวัตต์) ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไป เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

@อีก 6 โครงการ COD ครบธ.ค.นี้

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยภายได้กลุ่ม GRE ซึ่งได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการจัดการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tarif (FiT) ปี 2565 -2573 สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 มีกำหนดทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567-2573 โดยในปี 2567 มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 5 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 295.0 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง 531.8 เมกะวัตต์)

 สำหรับปี 2568 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีกำหนดทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มเติมอีก 7 โครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 354.3 เมกะวัตต์  (กำลังการผลิตติดตั้ง 596.8 เมกะวัตต์) โดยที่เหลืออีก 6 โครงการจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือนธันวาคมของปี 2568

“โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์อีก 6 โครงการที่เหลือจะทยอย COD ครบในเดือนธันวาคม 2568 เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้ ซึ่งบริษัทเตรียมที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้”

@คาด Q3 กำไรปกติ 7.1พั นล.

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส  จำกัด ระบุว่า  คาดกำไรปกติของ GULF ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อน (QoQ) ปัจจัยหนุนหลักจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น QoQ ตามผลประกอบการของโรงไฟฟ้า Jackson ในสหรัฐ ที่ปรับตัวดีขึ้นจากต้นทุนค่าบริการที่ลดลง และกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF GUNKUL ที่กระแสลมฟื้นตัว ประกอบกับคาดกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง ซึ่งชดเชยการรับรู้ปันผลรับของ KBANK ที่ลดลงได้ทั้งหมด  โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 อยู่ที่  7.2 พันล้านบาท จาก 6.4 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 2/2568 เพราะในไตมาส 2/2568 มีกำไรพิเศษถึง 5.7 หมื่นล้านบาท จากการบันทึกกำไรจากการควบรวมธุรกิจ

@ปรับเพิ่มกำไรปี 68-69

โดยรวมแล้วคาดกำไรสุทธิงวด 9 เดือน 2568 อยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท และคิดเป็น 77.5% ของ ประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2568 เดิมที่ประเมินไว้ โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2568 -2569 ขึ้น 5.1% และ 5.0% จากเดิม มาอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท  และ 3.1 หมื่นล้านบาทตามลำดับ เพื่อสะท้อนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Jackson ที่ดีขึ้น และรับรู้ปันผลรับจากการถือหุ้น KBANK ที่เพิ่มขึ้น ภายใต้ประมาณการใหม่ส่งผลให้กำไรปกติปี2568-2569 เติบโต 30.5%YoY และ 11.3%YoY ตามลำดับ

@แจงมีสิทธิซื้อหรือขายหุ้น KBANK

ด้าน GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า จากที่ธนาคาร KBANKได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือมายัง GULF เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้ GULF ขายหุ้นของ KBANK ในช่วงระยะเวลาที่ KBANK ซื้อหุ้นคืนระหว่างวันที่  14 พฤศจิกายน 2568 - 13 พฤษภาคม 2569 นั้น

โดย GULF แจ้งแจงว่า การลงทุนของ GULF ในหุ้น KBANK มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้น ซึ่ง GULF ไม่ได้มีการแต่งตั้งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการหรือฝ่ายบริหารของธนาคาร และไม่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ หรือกำหนดนโยบายของ KBANK รวมถึงนโยบายการซื้อหุ้นคืนดังกล่าว

ทั้งนี้การประกาศซื้อหุ้นคืนของ KBANK ไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิของ GULFในการซื้อ หรือ ขายหุ้นของ KBANK แต่อย่างไร โดยธนาคารต้องดำเนินภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ของบริษัทในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีหน้าที่ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้น