Google ลงทุนใหญ่ฟื้นฟูป่าแอมะซอน ซื้อเครดิตคาร์บอนชดเชยการปล่อยของศูนย์ข้อมูล

กูเกิล (Google) ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่ในการซื้อคาร์บอนเครดิต (Carbon Credits) หรือสิทธิ์ในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวน 200,000 เมตริกตันของคาร์บอนรีมูฟวัล (Carbon Removal) จากบริษัท มอมบัค (Mombak) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการฟื้นฟูป่าในประเทศบราซิล โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการเข้าซื้อที่ดินทำการเกษตรภายในเขตป่าอเมซอน (Amazon Forest) เพื่อปลูกป่าคืนสภาพ (Reforestation) และเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
สนับสนุนผ่านสมาพันธ์ “ซิมไบโอซิส”
ดีลครั้งนี้ดำเนินการผ่านโครงการ สมาพันธ์ซิมไบโอซิส (Symbiosis Coalition) ซึ่งเป็นพันธสัญญาตลาดล่วงหน้า (Advance Market Commitment) ที่มุ่งพัฒนาตลาดสำหรับการกำจัดคาร์บอนตามธรรมชาติ โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง แมคคินซีย์ (McKinsey), เมตา (Meta), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และ เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) เข้าร่วมสนับสนุนเช่นกัน
ทั้งนี้ สมาพันธ์ซิมไบโอซิสมีแนวคิดคล้ายกับโครงการ ฟรอนเทียร์ (Frontier) หรือโครงการเกี่ยวกับการเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนโดยตรงจากอากาศ ที่ “พันธะสัญญาตลาดล่วงหน้า” โดยกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเช่นกัน
ความท้าทายกับการฟื้นฟูธรรมชาติ
แม้แนวทางกำจัดคาร์บอนจากธรรมชาติจะมีศักยภาพสูงในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก แต่ก็มีอุปสรรคด้านความยั่งยืน เช่น ความเสียหายจากไฟป่าหรือภัยธรรมชาติที่อาจทำให้ผลลัพธ์ของโครงการลดลง อีกทั้งยังยากต่อการรับประกันผลในระยะยาว อย่างไรก็ตาม โครงการลักษณะนี้มีข้อดีเหนือเทคโนโลยีสังเคราะห์ เช่น การช่วยฟื้นฟูระบบน้ำใต้ดิน (Aquifer) และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) ซึ่งเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนไม่สามารถทดแทนได้
ปัญญาประดิษฐ์ช่วยวัดผลด้านสิ่งแวดล้อม
กูเกิลเผยว่าจะใช้เทคโนโลยี “ดีปมายด์ เพิร์ช เอไอ” (DeepMind Perch AI) เพื่อช่วยวิเคราะห์และวัดผลประโยชน์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ป่าที่ได้รับการฟื้นฟู โดยข้อมูลจาก AI จะช่วยให้สามารถติดตามผลลัพธ์ทางสิ่งแวดล้อมได้อย่างแม่นยำและโปร่งใสมากขึ้น
ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของกูเกิลในการเดินหน้าสู่เป้าหมาย “การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero) ด้วยการผสานพลังของเทคโนโลยี AI และธรรมชาติ เพื่อสร้างแนวทางใหม่ในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกอย่างยั่งยืน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
