พมจ.ลงพื้นที่ครอบครัวนร.หญิงถูกครูพละส่งข้อความลวนลาม ประสานตร.-ผู้ใหญ่บ้านเพื่อความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่ นางสาวบี นามสมมุติ ได้นำข้อความแชทระหว่างครูสอนพละศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา แห่งหนึ่งในอำเภอโนนสัง เมื่อครั้งยังเรียนอยู่ที่ โรงเรียนมัธยมศึกษา ในระดับชั้น ม.2 ขณะนั้นอายุ 14 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2561 ถูกครูวิชาพละแชท ข้อความมาทางเฟซบุ๊ก บอกให้นางสาวบี ไปแก้ ศูนย์(0) วิชาพละศึกษา ซึ่งให้ นางสาวบี หลานสาวของตนเองเดินทางไปพบหาตามลำพังคนเดียว ห้ามไม่ให้ใครไปด้วยและห้ามไม่ให้บอกใคร โดยให้ไป พบที่บ้านพักครู ให้มาคนเดียวไม่ต้องบอกใคร ซึ่งการบอกไปที่บ้านพักครูหลายครั้งโดย ไม่มีเหตุอันจำเป็น เหมือนกับเป็นการแกล้งจะให้ติดศูนย์วิชาที่เรียนแล้วต้องมาพบครูโดยเด็ก ไม่เต็มใจ โดยส่งข้อความมารบกวนหาหลายครั้ง เพื่อให้ นางสาวบี ไปพบ จนนางสาวบี เรียนจบชั้น ม.3 ไปเรียนต่อที่ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในระดับ ปวช.ภายในจังหวัดหนองบัวลำภู

ซึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 นายชาย ก็ยังส่งข้อความทาง เฟชบุ๊ก ไปหานางสาวบี อีก โดยถามว่ารับงานไหม ทำนองว่าให้ไปหลับนอนด้วย บอกว่าจะให้เงิน 3,500 บาท นางสาวบี บอกว่าไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น จึงต่อว่ากลับไป เพราะการพูดเช่นนั้นทำให้ตัวหลานสาวของตนเองเสียหาย ต่อมาวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายชาย จึงส่งข้อความมาขอโทษว่าที่พูดไปอย่างนั้นเพราะความเมา ขอลบข้อความที่แชทมาคุยด้วย และขอโทษ แต่นางสาวบี ไม่ยกโทษให้ เพราะเป็นการรบกวนทำให้เดือดร้อนจากการกระทำของนายชาย มาตั้งแต่ เรียน ม.2 แล้ว คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะจบแล้ว และขณะนี้นางสาวบี ได้ไปฝึกงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ไม่สะดวกเข้าพบพนักงานสอบสวน จึงให้ ตนเองซึ่งเป็นย่า เป็นผู้แจ้ง ซึ่งตัวเองเป็น ผู้ปกครองด้วย จึงได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งไว้เป็นหลักฐานในวันนี้ และหากพบว่าเป็นความผิดทางอาญาจะเข้าพบพนักงาน สอบสวนร้องทุกข์อีกครั้งหนึ่ง

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ทางด้าน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดหนองบัวลำภู มอบหมายให้ นายนัฐวิทย์ พัชรานุ นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ นายสิรวิชญ์ แซ่จึง จนท.ศปก.รุนแรง ลงพื้นที่ร่วมกับ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ตำบลกุดู่ อำเภอโนนสัง ได้เดินทางไปพบกับย่าและปู่ของ นางสาวบี เพื่อพูดคุยให้คำปรึกษา ชี้แจงสิทธิและขั้นตอนการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กและผู้ปกครอง ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26 (3) (9) รวมทั้ง ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรโนนสัง ให้การดูแลความปลอดภัยกับครอบครัวผู้ประสบปัญหา และประสานขอความร่วมมือในการรับเรื่องร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ในประเด็นความผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2564 และประเด็นการซื้อประเวณี และ พูดคุยทำข้อตกลง ให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 เป็นผู้ให้การดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการพาครอบครัวผู้ประสบปัญหาเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน และหากครอบครัวได้รับการคุกคาม ก็พร้อมที่จะร่วมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เท่าที่ทราบครูผู้ก่อเหตุน่าจะสำนึกผิดและคงไม่กล้าที่จะมาคุกคามต่อครอบครัวของผู้เสียหาย