ปลาหมึกทะลักทะเลอังกฤษ โชคดีของชาวประมง หรือภัยเงียบจากโลกร้อน?

ปลาหมึกยักษ์กลายเป็นดาวเด่นแห่งชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ หลังเกิดปรากฏการณ์จำนวนปลาหมึกเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์และชาวประมงเชื่อว่าเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นผิดปกติ
ที่ตลาดปลาบริกซ์แฮมในเมืองเดวอน ชาวประมงจับปลาหมึกได้วันละหลายสิบตัน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่จับได้เพียงไม่ถึง 1 ตัน ความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงเป็น "โบนัสทางเศรษฐกิจ" ของอุตสาหกรรมประมงอังกฤษ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบนิเวศทางทะเลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอุณหภูมิน้ำทะเลในแถบนี้สูงขึ้นจากปกติถึง 2–4 องศาเซลเซียส ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ปลาหมึกที่เคยพบมากในน่านน้ำแอฟริกาตะวันตก อย่างโมร็อกโกและมอริเตเนีย เคลื่อนตัวขึ้นเหนือมายังชายฝั่งอังกฤษที่อบอุ่นขึ้นจนสามารถรองรับพวกมันได้
ดร.มาร์ตา มาร์คอส นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากสเปนระบุว่า “กว่าครึ่งของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในทะเลตั้งแต่ปี 2000 เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์สร้างขึ้น” สอดคล้องกับข้อมูลของ Devon Wildlife Trust ที่ระบุว่า การแพร่กระจายของปลาหมึกครั้งนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายเหตุการณ์ที่แสดงถึงผลกระทบจากคลื่นความร้อนทางทะเล
ปลาหมึกกลายเป็นสินค้าทำเงินที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านโควตาการจับ ส่งผลให้ชาวประมงอังกฤษสามารถทำรายได้สูง โดยราคาประมูลในตลาดยุโรปเฉลี่ยอยู่ที่ 8 ปอนด์ต่อกิโลกรัม และเกือบ 80% ของปลาหมึกที่จับได้ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะสเปนซึ่งมีความต้องการบริโภคสูง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์เตือนว่า หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม การจับปลาหมึกจำนวนมากโดยไม่มีขีดจำกัดอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อสมดุลของระบบนิเวศในอนาคต
ในอีกด้านหนึ่ง การเพิ่มจำนวนของปลาหมึกกลับสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมประมงบางประเภท โดยเฉพาะผู้ที่จับปูและกุ้งมังกร ซึ่งระบุว่าปลาหมึกจำนวนมากเข้าไปในกระชังและกินสัตว์เปลือกแข็งเหล่านี้จนเสียหาย ปลาหมึกมีพฤติกรรมล่าเหยื่อที่ชาญฉลาด พวกมันใช้จะงอยปากแข็งเจาะเปลือก ก่อนปล่อยเอนไซม์ละลายเนื้อ และดูดกินเนื้อสัตว์ออกมาอย่างง่ายดาย พฤติกรรมนี้ทำให้บางพื้นที่ประสบกับการลดลงของประชากรปูและกุ้งอย่างรวดเร็ว
แม้ปลาหมึกจะถือเป็นสายพันธุ์ที่เติบโตเร็วและปรับตัวเก่ง แต่หากแนวโน้มการจับยังดำเนินต่อไปในอัตราสูงโดยไม่มีการควบคุม ก็อาจทำให้ประชากรปลาหมึกลดลงในอนาคตอันใกล้ คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ที่ถูกจับเกินขนาด
เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานประมงในท้องถิ่นเริ่มหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดการ เช่น การกำหนดโควตา หรือปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงให้เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างโอกาสทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์
อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายของปลาหมึกในอังกฤษอาจดูเหมือนเป็นของขวัญที่มอบให้กับชาวประมงจากธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้วมันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศที่น่ากังวล ซึ่งในโลกที่อุณหภูมิกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์เช่นนี้อาจเกิดถี่ขึ้นและขยายวงกว้างมากขึ้น การรับมืออย่างจึงไม่ได้มีแค่เรื่องรายได้ในวันนี้ แต่ต้องรวมถึงวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศในวันหน้าด้วยเช่นกัน