ชาวปาเลสไตน์ในกาซาอพยพหนีการโจมตีจากอิสราเอลที่ย่านซัยตูน

ชาวปาเลสไตน์นับพันคนพากันอพยพออกจากย่านซัยตูน ทางตอนใต้ของนครกาซา หลังเผชิญการทิ้งระเบิดอย่างต่อเนื่องจากกองทัพอิสราเอลติดต่อกันหลายวัน จนเทศบาลนครกาซา ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของฮามาส ระบุว่าสถานการณ์ในพื้นที่ถึงขั้น “วิกฤตอย่างมหันต์”

หน่วยกู้ภัยพลเรือนของกาซารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย จากการโจมตีของอิสราเอลทั่วฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา

ด้านกองทัพอิสราเอลประกาศว่าจะอนุญาตให้องค์กรช่วยเหลือนำเต็นท์เข้ามายังกาซาอีกครั้ง โดยอิสราเอลมีแผนจะบังคับอพยพประชาชนราว 1 ล้านคน ออกจากนครกาซาไปยังค่ายพักทางตอนใต้ กองทัพอิสราเอลระบุว่า การอนุญาตให้นำเต็นท์และอุปกรณ์ที่พักเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมอพยพประชาชนจากพื้นที่สู้รบไปยังตอนใต้เพื่อความปลอดภัย 

โฆษกเทศบาลนครกาซากล่าวว่า การอพยพจำนวนมากได้เกิดขึ้นแล้วในย่านซัยตูน หลังเผชิญ การโจมตีทางอากาศ ปืนใหญ่ และการรื้อถอน ตลอดหกวันที่ผ่านมา โดยย่านดังกล่าวมีประชาชนราว 50,000 คน ส่วนใหญ่แทบไม่มีอาหารและน้ำ

ที่อิสราเอลเอง มีกำหนดจัดการ นัดหยุดงานทั่วไป 1 วัน ในวันอาทิตย์ เพื่อประท้วงแผนของรัฐบาลที่จะยึดครองนครกาซา ครอบครัวของตัวประกันและผู้ประท้วงอีกจำนวนมากเห็นว่า การขยายสงครามเช่นนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตของชาวอิสราเอลที่ยังถูกฮามาสควบคุมตัวอยู่

มติดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลมีมติเมื่อสัปดาห์ก่อนให้เดินหน้าครอบครองนครกาซา เมืองใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา และบังคับอพยพประชาชนทั้งหมด ซึ่งถูก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประณามอย่างรุนแรง