โควิด-19 : รัฐบาลเคาะออก พ.ร.ก.กู้เงิน-การเงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท รับมือไวรัสโคโรนา
![โควิด-19 : รัฐบาลเคาะออก พ.ร.ก.กู้เงิน-การเงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท รับมือไวรัสโคโรนา](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/07/22/e64c6b70-cbf7-11ea-a262-bbeca60bd8c4_original.jpg)
![โควิด-19 : รัฐบาลเคาะออก พ.ร.ก.กู้เงิน-การเงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท รับมือไวรัสโคโรนา](https://cms.dmpcdn.com/news/2020/04/07/cb05e6c0-78a5-11ea-b4e9-0984d8e8648f_original.jpg)
รัฐบาลเห็นชอบให้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การเงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
หนึ่งในร่างกฎหมายที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (7 เม.ย.) คือ ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นผู้แถลงข่าวด้วยตนเอง โดยระบุว่า งบประมาณ 1 ล้านล้านบาท จะถูกนำไปใช้จ่ายสองส่วนคือ 6 แสนล้านบาท สำหรับรักษาและเยียวยาด้านสุขภาพของประชาชน และอีก 4 แสนล้านบาท สำหรับฟื้นฟูและเยียวยาระบบเศรษฐกิจ โดยงบทั้ง 2 ส่วนนี้สามารถปรับโอนไปมาได้
ส่วน พ.ร.ก. อีก 2 ฉบับที่ ครม. อนุมัติ เป็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงินรวม 9 แสนล้านบาทคือ ร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อดูแลภาคธุรกิจ วงเงิน 5 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน วงเงิน 4 แสนล้านบาท ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า "ไม่ใช่กู้เงิน แต่เป็นการเพิ่มอำนาจ ธปท. ในการบริหารจัดการ"
- รัฐบาลเล็งออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ สู้วิกฤตไวรัสโคโรนา
- ธนาคารโลกประเมินพิษโควิด-19 อาจทำเศรษฐกิจไทยหดตัวต่ำสุดในอาเซียน
- ไวรัสโคโรนา : วิกฤตโควิด-19 ทำเศรษฐกิจไทยเลวร้ายสุดนับแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540
- เคอร์ฟิวทั้งประเทศ 3 เม.ย. ฝ่าฝืนจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น
นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ครม. ยังเห็นชอบในหลักการให้ตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนและปรับเปลี่ยนการใช้งบประมาณปี 2563 เพื่อโอนงบของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีอยู่ราว 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท มาเป็น "งบกลาง" ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่างบของปี 2563 ถูกใช้จ่ายไปพลางก่อนตามสมควร ทำให้ปัจจุบันเหลืองบกลางอยู่ 3 พันล้านบาท จากที่ตั้งไว้ทั้งหมด 9.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ ระบุว่าต้องนำร่าง พ.ร.บ.นี้เสนอต่อที่ประชุม ครม. และรัฐสภา คาดมีผลบังคับใช้ช่วงต้นเดือน มิ.ย.
ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลบอกด้วยว่า ครม. ได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาโควิด-19 เป็น "วาระแห่งชาติ" ยินดีรับข้อเสนอจากทุกภาคส่วน แต่ขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วย พร้อมยืนยันจะกวดขันการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
"รัฐบาลยืนยันเจตนารมณ์อันแนวแน่ในการรักษาสุขภาพให้คนไทย สิ่งใดที่ภาครัฐยังมีปัญหา ต้องขอให้เห็นใจ เข้าใจรัฐบาลด้วย เพราะเราทำงงานด้วยคนจำนวน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
การตรา พ.ร.ก.กู้เงิน ของรัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญเพื่อหางบประมาณมาจ่ายเป็นเงินเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ "เราไม่ทิ้งกัน" เพื่อขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้จำนวน 9 ล้านคน คิดเป็นวงเงิน 1.35 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังแจ้งว่าถึงขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิกว่า 24.3 ล้านคน
ในวันที่ 8-10 เม.ย. กระทรวงการคลังจะทยอยโอนเงินเยียวยาให้ผู้ผ่านเกณฑ์กลุ่มแรกราว 1.6 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอชีพค้าขาย, ขับแท็กซี่, ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง, มัคคุเทศก์ และขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
รัฐบาลไหนเคยออก พ.ร.ก.กู้เงิน บ้างในรอบ 20 ปี
ชื่อกฎหมาย | วงเงินกู้ | กรอบเวลากู้ |
---|---|---|
ชวน หลีกภัย | ||
พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจากต่างประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ. 2541 | 2 แสนล้านบาท | 31 ธ.ค. 2543 |
พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 | 5 แสนล้านบาท | - |
พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 | 3 แสนล้านบาท | 31 ธ.ค. 2543 |
ทักษิณ ชินวัตร | ||
---|---|---|
พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (ระยะที่ 2) พ.ศ. 2545 | 7.8 แสนล้านบาท | - |
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | ||
---|---|---|
พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 | 4 แสนล้านบาท | 31 ธ.ค. 2553 |
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร | ||
---|---|---|
พ.ร.ก.ให้อํานาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 | 3.5 แสนล้านบาท | 30 มิ.ย. 2556 |
ที่มา : บีบีซีไทยตรวจสอบและรวบรวมจากจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา