“ถนนยุบ” ปัญหาทั่วโลก ทำไมบางหลุมซ่อมไว บางหลุมรอเป็นปี ?
จากข่าวถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล นอกจากจะสร้างความตกใจให้คนทั่วประเทศแล้ว ยังก่อให้เกิดคำถามว่า ทำไมถนนในประเทศไทยเกิดการยุบตัวบ่อยครั้ง จนหวั่นถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
แต่เหตุการณ์ถนนทรุด ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แล้วมีประเทศไหนบ้าง ที่มีปัญหาคล้ายกันนี้
หลุมยุบ-ถนนทรุดปัญหาทั่วโลก
เริ่มต้นกันที่ประเทศใกล้บ้านเราก่อนเลย อย่าง ญี่ปุ่น เมื่อปี 2016 เกิดหลุมยักษ์ขนาด 30 เมตร บนถนน 5 เลน ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ส่งผลให้การจราจรติดขัด รถไฟฟ้าใต้ดินหยุดวิ่ง ไฟฟ้าดับกว่า 800 หลัง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
สาเหตุการยุบครั้งนี้ เกิดจากการก่อสร้างส่วนขยายรถไฟฟ้าใต้ดิน การขุดเจาะทำให้ชั้นดินอ่อนแอ และท่อระบายน้ำแตก จนทำให้มีน้ำซึมรั่วลงไปในชั้นดิน และก่อให้เกิดการยุบตัวทันที
อีกเหตุการณ์หนึ่งล่าสุด ที่จังหวัดไซตามะ เมื่อต้นปี 2025 เกิดหลุมยักษ์กว้าง 40 เมตร จนกลืนรถบรรทุกไปทั้งคัน ส่งผลให้คนขับเสียชีวิต สาเหตุเกิดจากท่อระบายน้ำที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1983 แตก
เหตุการณ์นี้ สะท้อนถึงสัญญาณว่า โครงสร้างพื้นฐานญี่ปุ่นเริ่มเสื่อม หากไม่เร่งซ่อมแซม อาจมีหลุมยุบใหญ่ ๆ ตามมาอีกได้
ถ้าหากยังจำกันได้ดี มีนาคม 2025 ที่เกาหลีใต้ เกิดหลุมยุบขนาด 20 เมตร ลึก 30 เมตร กลางถนนกรุงโซล ส่งผลให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พลัดตกลงไปเสียชีวิต
โดยคาดว่า สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน, โครงสร้างพื้นฐานใต้ดินที่เก่าแก่ หรือ การรั่วของท่อประปา จนกัดเซาะดินใต้พื้นถนน
นอกจากเอเชียแล้ว ประเทศมหาอำนาจ อย่าง สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหานี้เช่นกัน โดยเฉพาะรัฐฟลอริดา ซึ่งหลุบยุบเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐ ตั้งอยู่บนหินคาร์บอเนตที่มีรูพรุนสูง
แม้ว่าหลุมยุบที่ฟลอริดา จะเป็นลักษณะทางธรณีวิทยาตามธรรมชาติ แต่หลุมยุบจากกิจกรรมของมนุษย์ก็กำลังเกิดขึ้นบ่อยเรื่อย ๆ
ถนนยุบทั่วโลก เกิดจากอะไร ?
เมื่อเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมยักษ์ใจกลางที่อยู่อาศัยบ่อยขนาดนี้
หน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในรัฐฟลอริดา ระบุว่า การเกิดหลุมยุบขนาดใหญ่ สามารถเกิดได้จากทั้งทางธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์
สาเหตุจากธรรมชาติ ได้แก่ ฝนที่ตกลงดิน ทำปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ และซากพืช ทำให้กลายเป็นน้ำกรดอ่อน ๆ ไหลไปตามรอยแตกใต้ดิน ค่อย ๆ ละลายหินปูน ก่อให้เกิดโพรงและช่องว่างใต้ดิน พอโพรงใหญ่ขึ้น ดินด้านบนไม่มีอะไรรองรับ จึงยุบตัวลงมา
ภัยแล้งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกัน เมื่อดินแล้ง น้ำในดินจึงน้อย ทำให้ดินอ่อนแอ และถ้าหากเกิดฝนตกหนักหลังแล้งมานาน ดินก็จะรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้เกิดหลุมยุบตามมา
สำหรับสาเหตุที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ มักเกิดจากการก่อสร้าง การขุดเจาะบริเวณชั้นใต้ดิน, ท่อน้ำประปาแตก, การสูบน้ำบาดาลมากเกินไป, น้ำหนักบรรทุกที่มากเกินไป จนสร้างแรงกดดันบนเพดานโพรงใต้ดิน
ถนนยุบจากฝีมือมนุษย์เพิ่มสูงขึ้น
แม้หลุมยุบสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ภายหลังหลุบยุบที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นในบางประเทศ
ข้อมูลจาก โยะมิอุริ ชิมบุง หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2015-2024 ญี่ปุ่นเกิดเหตุถนนยุบบนถนนทางหลวงมากกว่า 1,100 ครั้ง และสาเหตุ 2 ใน 3 เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์
44% เกิดจากท่อใต้ดินเสียหาย 22% เกิดจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนปัจจัยจากธรรมชาติ คิดเป็น 24%
ขณะที่ เกาหลีใต้ กระทรวงที่ดิน รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2020-2024 เกิดเหตุหลุมยุบทั่วประเทศ ทั้งหมด 867 ครั้ง 45.4% เกิดจากท่อประปาใต้ดินแตก
นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่เก่าแก่ และการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดถนนยุบด้วยเช่นกัน
ทำไมบางหลุมซ่อมไว บางหลุมต้องรอนาน ?
จากเหตุถนนยุบครั้งใหญ่ในกรุงเทพฯ มีการคาดว่า จะใช้เวลาซ่อมแซมแล้วเสร็จประมาณ 1 ปี ซึ่งในโซเชียลมีเดียก็ตั้งคำถามว่า ทำไมถึงใช้เวลาซ่อมแซมนาน ขนาดนี้ เมื่อเทียบกับกรณีหลุมยุบที่ฟุกุโอกะ
คำตอบคือ การซ่อมแซมต้องขึ้นอยู่กับโครงสร้างความเสียหาย และความซับซ้อนอื่น ๆ เช่น ขนาด สภาพดิน มาคำนวณร่วมด้วย
สำหรับกรณีที่ฟุกุโอกะ สามารถซ่อมถนนเสร็จภายใน 48 ชั่วโมง เป็นเพราะขนาดหลุมนั้นจัดการง่าย คนงานและวิศวกรทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ภาครัฐและเอกชนทำงานร่วมกัน ซ่อมแซมสาธารณูปโภคครบวงจร แล้วกลบหลุมดินเหลวผสมซีเมนต์กว่า 6,200 ลูกบาศก์เมตร โดยยืนยันว่า หลุมยุบที่กลบไปนั้น แข็งแกร่งกว่าเดิม 30 เท่า
ในทางตรงกันข้าม กรณีหลุมยุบที่เมืองยาชิโอะ จังหวัดไซตามะ เมื่อต้นปี 2025 กลับใช้เวลานานและยังซ่อมไม่เสร็จ เนื่องจาก ขนาดความเสียหายที่ใหญ่กว่า และ ความซับซ้อนที่เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานที่เก่าแก่ โดยเฉพาะการผุกร่อน
อย่างรุนแรงของ ท่อระบายน้ำหลัก ที่ติดตั้งมานาน ทำให้เกิดการกัดเซาะและทรุดตัวของดินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแก้ไขทำได้ยากและล่าช้ากว่ามาก
นอกจากนี้ ภาครัฐยังต้องพิจารณาแผนระยะยาวในการ ติดตั้งท่อระบายน้ำใหม่ทั้งระบบ ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจต้องใช้เวลาดำเนินการนาน 5-7 ปี เลยทีเดียว
เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นตระหนักถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานเก่าแก่ทั่วประเทศ และกระตุ้นให้มีการนำ เทคโนโลยีและมาตรการป้องกัน เข้ามาใช้เพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต
ย้อนมองประเทศไทย แม้เหตุการณ์ครั้งนี้ ยังไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรปล่อยปะละเลย เพราะได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนผู้ใช้ถนนว่า ไม่รู้เหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และจะเกิดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังขับรถบนถนนหรือไม่ ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสียหายมากขึ้นอีกในอนาคต
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
https://stonybrook.digication.com/nina_zeng/Final_Report
https://www.tnnthailand.com/tnnexclusive/212165/
https://time.com/4562150/japan-sinkhole-fukuoka/
https://www.nippon.com/en/in-depth/d01102/
https://www.koreaherald.com/article/10465739
https://www.sjrwmd.com/education/sinkholes/
https://www.floridamuseum.ufl.edu/earth-systems/blog/tell-me-about-sinkholes-in-florida/
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้