MALEEน้ำผลไม้ขายดี เจาะตลาดจีน-เกาหลี

MALEE รับอานิสงส์เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่กลับมาดีขึ้น หนุนน้ำผลไม้ขายดี ดันงบไตรมาส 1/2566 กลับมามีกำไร ปรับกลยุทธ์ โฟกัส SKU เน้นสินค้าที่ตลาดนิยม ลุยตลาดจีนและเกาหลี ระบุน้ำมะพร้าวขายดี ดันสัดส่วนยอดขายต่างชาติโต มั่นใจรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 20% ผนึก ABICO โตแกร่ง

นายไพฑูรย์  เอี่ยมศิริกุลมิตร  เลขานุการบริษัท บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดน้ำผักและผลไม้พร้อมดื่มภายในประเทศในรอบระยะเวลา 12 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่า 9,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% ถือว่าเติบโตได้ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่กลับมาดีขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ซึ่งน้ำผลไม้ยังเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการบริโภคด้วย ซึ่งบริษัทในฐานะที่จำหน่ายน้ำผลไม้แท้ 100% ทำให้ได้รับอานิสงส์จากส่วนนี้ ส่วนกลุ่มสินค้าที่ขายดีจะมีหลากหลาย โดยบริษัทพยายามผลักดันยอดขายทำการตลาดต่อเนื่อง

“ปีนี้ตลาดน้ำผลไม้เติบโตขึ้น จากภาพรวมเศษฐกิจฟื้นตัว การท่องเที่ยวดีขึ้น มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นทำให้เห็นการเติบโตของยอดขายเห็นได้จากไตรมาส 1/2566 มียอดขายที่ดีบริษัทพลิกกลับมามีกำไร และมีการ Focus SKU ตลอดจนการปรับกลยุทธ์ทางการขายและการตลาด ทำให้มียอดขายที่ดีขึ้น “นายไพฑูรย์ กล่าว

*ตลาดต่างแดนโตดี

ขณะที่ตลาดต่างประเทศเติบโตได้ดีเช่นกัน โดยไตรมาส 1/2566 มียอดขาย 509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สัดส่วนยอดขายในประเทศ 73% และยอดส่งออก 27% โดยปีนี้จะเน้นการขยายในประเทศจีนและเกาหลีเพิ่ม โดยผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายคือกลุ่มน้ำมะพร้าวที่มีการเติบโตได้ดี และมีความต้องการเพิ่มขึ้น แม้ส่วนแบ่งการตลาดอาจจะไม่สูงมากแต่ด้วย ตลาดที่ใหญ่ทำให้มีโอกาสในการเติบโตได้ดี

นอกจากนี้ บริษัทต้องการสร้างกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเร่งการเติบโตของยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee ใหม่มากขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับการเติบโตของยอดขายสินค้ารับจ้างผลิต โดยกลยุทธ์ที่จะนำมาใช้ ประกอบด้วย

การมุ่งเน้นปริมาณการขายสินค้า โดยใช้กลยุทธ์ การตลาดและการขายใน 4 เสาหลักทางการค้า คือ: Mental Availability, Physical Availability, Relevant Portfolio, and Improved Customer Preferenc ด้านการรับจ้างผลิตเพิ่มลูกค้าหลักและตั้งเป้ารักษาอัตราผลกำไรขั้นต้นไม่น้อยกว่าเดิม ปรับปรุงประสิทธิภาพและความมีประสิทธิผลขององค์กร

ในส่วนสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบในทุกรายการที่ขยับขึ้นจากก่อนหน้านั้น ปัจจุบันเริ่มมีทิศทางราคาคงที่ อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการปรับราคาสินค้าในเดือนสิงหาคม 2565 และเน้นการบริหารต้นทุน ทำให้กำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/2566 ดีขึ้น เทียบกับทั้งปี 2565

*ผนึก ABICO โตแกร่ง

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ปัจจัยหนุนจากการรวมงบของบริษัท เอบิโก้ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ABICO โดย MALEE และ ABICO ต่างประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันและมีธุรกิจที่เอื้อต่อกัน ดังนั้นภายหลังการปรับโครงสร้างสำเร็จคาดว่าการรวมธุรกิจภายใต้กลุ่มบริษัทเดียวกันจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่นการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การนำเสนอให้บริการแก่ลูกค้า และการลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนบางส่วนของทั้งสองบริษัทเป็นต้น และคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการทางการเงิน ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง และทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง