อียู จ่อเริ่มนโยบายพึ่งพาตนเอง หลังหมดยุค "ทรัมป์"

วันนี้( 17 พ.ย.63) รัฐมนตรีต่างประเทศ และ รัฐมนตรีกลาโหมของกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู เตรียมจัดการประชุมทางไกล ( teleconference) ขึ้นระหว่างพฤหัสบดีที่ 19 - 20 พฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางนโยบายหลังจากที่อังกฤษถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอียูอย่างสมบูรณ์ รวมไปถึง ท่าทีของยุโรป หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พ้นจากตำแหน่ง 

นักการทูตจากยุโรป ทระบุว่า แม้ยุคของประธานาธิบดีทรัมป์จะจบลงแล้ว แต่สิ่ที่ทรัมป์ทำให้บรรดาพันธมิตรตระหนักก็คือ การกำหนดนโยบายที่ทำให้สหภาพยุโรป สามารถพึ่งพาตนเองได้ในหลายๆด้าน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การค้า ไปจนถึงเรื่องการทหารที่เกี่ยวพันถึงความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับ กลุ่มก่อการร้าย หรือ การรักษาดุลอำนาจกับรัสเซีย 

ในยุคสมัยของประธานาธฺบดีทรัมป์นั้น ได้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ขึ้นหลายด้าน อาทิ การกำหนดภาษีศุลกากรระหว่าง อียู กับ สหรัฐ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถรอมชอมกันได้มาตลอด 

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังประกาศอย่างชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยที่สหรัฐต้องจ่ายเงินมหาศาลในการสนับสนุน องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ เพราะเห็นว่าสหรัฐได้ประโยชน์หม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับงบประมาณที่จ่ายไปและทรัมป์ยังบอกอย่างตรงไปตรงมาด้วยว่า สหรัฐ ควรจะถอนตัวออกจากนาโต้ 

ดังนั้น แม้ว่าโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับพันธมิตรในยุโรป แต่ยุคสมัยของทรัมป์ก็เป็นบทเรียนว่า ยุโรปจำเป็นต้องพึ่งพาตนเองเพราะอาจมีผู้นำสหรัฐที่มีนโยบายแบบเดียวกับทรัมป์เกิดขึ้นได้อีกในอนาคต

เกาะติดข่าวที่นี่