รีเซต

“MuvMi" รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าโดยสาร ทางเลือกเพื่อลดปัญหารถติดแบบรักษ์โลก | TNN Tech Reports

“MuvMi" รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าโดยสาร ทางเลือกเพื่อลดปัญหารถติดแบบรักษ์โลก | TNN Tech Reports
TNN ช่อง16
6 มีนาคม 2566 ( 11:20 )
218
“MuvMi" รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าโดยสาร ทางเลือกเพื่อลดปัญหารถติดแบบรักษ์โลก | TNN Tech Reports



"กรุงเทพฯ" ติดอันดับ 10 เมืองที่มีการจราจรหนาแน่นมากที่สุดในโลก


ปัญหารถติด ถือเป็นสถานการณ์ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนในหลายเมืองทั่วโลกต้องเผชิญมานานหลายปี ข้อมูลจาก TomTom เว็บไซต์ จัดทำสถิติด้านการจราจรทั่วโลก เผยรายงานดัชนีการจราจร Traffic Index ปี 2020 ระบุว่า กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 10 เมืองที่มีการจราจรหนาแน่นมากที่สุดในโลก โดยมีระดับความแออัดที่ 44% จากผลสำรวจทั้งหมด 416 เมือง ใน 57 ประเทศ 



อันดับ 1 คือ กรุงมอสโคว สหพันธรัฐรัสเซีย, รองลงมาคือ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย, ตามมาด้วยเมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย คนที่เดินทางในกรุงเทพฯ ต้องเสียเวลาอยู่บนท้องถนนถึง 67 ชั่วโมง หรือ เท่ากับ 2 วัน 19 ชั่วโมง ตามรายงานการประเมินสภาพจราจรทั่วโลก ประจำปี 2022 จาก INRIX บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรของสหรัฐอเมริกา


แม้ปัจจุบันจะมีการพัฒนาและขยายการเดินทางสาธารณะในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง การเพิ่มจำนวนรถโดยสารสาธารณะหรือรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าเส้นทางที่ให้บริการยังคงอยู่ที่ถนนสายหลักเท่านั้น ทำให้ผู้คนบางส่วน ที่มีบ้านเรือนอยู่ในตรอก ซอยย่อยต่าง ๆ เดินทางได้ไม่สะดวก ต้องใช้รถส่วนตัว นำไปสู่การเพิ่มของจำนวนรถบนท้องถนนอยู่ดี




MuvMi คืออะไร ?


เพื่อแก้ปัญหารถติดเรื้อรังนี้ จึงได้มีการพัฒนาตัวเลือกการเดินทางที่เรียกว่า "MuvMi" ขึ้นมา โดยมันนั้นก็คือบริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าโดยสาร ที่ให้บริการเฉพาะย่าน ด้วยวิธีการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันและจ่ายผ่านการสแกน QR Code  


นอกจากนี้ MuvMi ยังมาพร้อมระบบ Sharing ให้เราสามารถเดินทางร่วมกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ได้ เมื่อเราและพวกเขาเดินทางในเส้นทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนรถบนท้องถนนและค่าใช้จ่าย ผลงานนี้เป็นของสตาร์ตอัปไทยที่ชื่อว่า "Urban Mobility Tech" หรือ "UMT" ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการเดินขนส่งให้เชื่อมต่อกับชีวิตประจำวัน




การทำงานของแพลตฟอร์ม MuvMi จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ที่เชื่อมโยงกัน คือ

1. ตัวแอปพลิเคชัน เป็นช่องทางให้คนเข้ามาใช้งาน ผ่านสมาร์ตโฟน

2. ระบบ Sharing หรือระบบคำนวณด้วย AI ใช้สำหรับคัดเลือกผู้โดยสารที่จะไปในเส้นทางเดียวกัน และจับคู่ตัวรถกับผู้โดยสาร  

3. ตัวรถตุ๊กตุ๊กและอุปกรณ์ IoT เช่น หน้าจอแสดงข้อมูลเส้นทาง, BCU หรือ Building Controller Unit อุปกรณ์ที่ระบุข้อมูลต่าง ๆ ของรถ ทั้งจุดที่อยู่ จำนวนคนนั่ง ข้อมูลแบตเตอรี่ ส่งเข้ามาที่ระบบเก็บข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งเป็น Cloud 



จะใช้บริการ MuvMi ต้องทำอย่างไรบ้าง ?


1. เลือกจุดขึ้นรถ และจุดที่ต้องการลง 

2. เลือกจำนวนคนนั่ง หรือเหมาคันก็ได้

3. เลือกจ่ายเงินด้วย MuvMi Pass หรือ My wallet ตามต้องการ

4. กดเรียกรถ เราจะทราบทะเบียนรถและคนขับ

5. เมื่อรถมาถึงก็เพียงสแกน QR Code เพื่อจ่ายเงิน และเริ่มการเดินทาง 



MuvMi มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?

1. MuvMi ตั้งอยู่บนแนวคิดที่จะช่วยพาผู้คนเดินทางจากบ้าน ไปสู่ถนนใหญ่ และรถสาธารณะแบบเฉพาะพื้นที่ ได้ในทุกวัน
 

2. ตัวระบบใช้หลักการที่เรียกว่า Rideharing หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน สามารถแชร์รถร่วมกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ได้

3. ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อคำนวณเส้นทางและจับคู่ผู้ใช้งานกับตัวรถแต่ละคันให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด 

4. ประหยัดค่าเดินทาง คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 10 บาทเท่านั้น

5. ตัวรถถูกออกแบบมาใหม่เฉพาะ ให้มีความปลอดภัยสำหรับการวิ่งในเมือง ปรับความสูงต่ำของตัวรถให้ผู้ใช้งานขึ้น-ลง ได้สะดวกมากขึ้น ภายในรถ ตัวที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 6 คน เราสามารถใช้โดยสารได้โดยที่ไม่รู้สึกอึดอัด 

6. ตัวรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เสียงเบาและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

7. ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียม ชาร์จ 30 นาที จาก 0-80% หากชาร์จเต็มที่จะวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร จำกัดความเร็วในการวิ่งอยู่ที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

8. คนขับรถ ผ่านการฝึกทักษะมาอย่างดีจาก Academy ซึ่งเป็นดั่ง Training Center ของ MuvMi เอง มองว่านี้จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่จะช่วยให้เกิดการจ้างงานที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน 



ข้อด้อยของ MuvMi


  • จำนวนรถไม่เพียงพอต่อความต้องการ ปัจจุบัน MuvMi มีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการอยู่ทั้งหมด 350 คัน มีผู้เดินทางมากกว่า 3 ล้านเที่ยว หลังจากก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 5 ปี 

  • รถแต่ละคันจะวิ่งให้บริการเฉพาะภายในย่านของตัวเอง โดยขณะนี้มีพื้นที่วิ่งทั้งหมด 12 โซน ในกรุงเทพมหานคร เท่านั้น


เป้าหมายในอนาคต


MuvMi ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนรถและเปิดพื้นที่บริการมากขึ้น ครอบคลุมกับความต้องการของคนเดินทาง เพื่อลดรอยต่อและเชื่อมระบบขนส่งในชีวิตประจำวันของผู้คนให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จนเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง นำไปสู่การลดจำนวนลงของรถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหารถติด  


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง