ไหม้ซะแล้ว! คูหาเลือกตั้งวัดท่ามะเฟืองวอด วัดที่เคยเป็นข่าวดัง ไร้คนจองกฐิน

ไฟไหม้วอด คูหาเลือกตั้ง อบจ.ราชบุรี ในวัดท่ามะเฟือง อุปกรณ์เสียหายทั้งหมด เผยวัดเคยเป็นข่าวดัง หลังไม่มีคนจองกฐิฯ จนคนแห่ทำบุญกว่า 30 ล้านบาท 

วันที่ 19 ธ.ค.63 พ.ต.ท.จิตรกร รอดทวีผล สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้หน่วยเลือกตั้งที่อยู่ภายในวัดท่ามะเฟือง หมู่ 3 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ หน่วยงานทหารจากกรมสรรพาวุธทหารบก และชมรมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยภาคตะวันตก ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์

• อ่านข่าว ยอดทะลุ16ล้าน! เจ้าอาวาสอาพาธร่ำไห้ แห่ช่วยทำบุญวัดไร้โยมจองกฐิน เตือนโจรชั่วโผล่มั่วบัญชี
• อ่านข่าว คาดยอดทะลุ 25 ล้าน! ศาสนิกชน แห่ร่วมบุญวัดท่ามะเฟือง หลังไร้โยมจองกฐิน รถติดหนึบ
• อ่านข่าว ตั้งกรรมการ จัดการเงินทอดกฐิน32ล้าน วัดท่ามะเฟือง หลังสมภารอาพาธ

ที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากศาลาญาณภัทราประชารังสรรค์ ซึ่งด้านในนั้นจัดเป็นหน่วยเลือกตั้ง เขต 6 ต.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเข้าไปสกัดไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ด้านใน ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบภายในศาลา พบว่าคูหาเลือกตั้ง รวมทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ที่มีการจัดไว้สำหรับเลือกตั้ง นายก อบจ. และส.อบจ. ในวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) ได้รับความเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำข้าวของบางส่วนที่ไม่ถูกไฟไหม้ ออกมาจัดหน่วยเลือกตั้งด้านนอกศาลา โดยจะนำเต็นท์มากางชั่วคราวไปก่อน

จากการสอบถาม นายกิตติ โค้วถาวร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.อ่างทอง ทราบว่า วัดท่ามะเฟือง เป็นวัดที่เคยเป็นข่าวโด่งดัง ในกรณีที่ไม่มีญาติโยมมาจองทอดกฐิน ในช่วงเทศกาลงานกฐิน หลังออกพรรษาที่ผ่านมา จนมีผู้นำไปโพสต์ขอความช่วยเหลือ และมีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไป จนมีผู้มาร่วมจองกฐินและมาร่วมทำบุญได้เงินมากกว่า 32 ล้านบาท

และในช่วงที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. และ สอบจ. ทางกกต.จ.ราชบุรี ก็ได้ใช้ศาลาแห่งนี้ให้เป็นหน่วยเลือกตั้งเขต 6 ของ ต.อ่างทอง และในช่วงที่เกิดเหตุก็ได้มีการปิดศาลาไว้ แต่จู่ๆ ก็ได้รับแจ้งจากทางพระที่วัดท่ามะเฟืองว่า น่าจะมีไฟลุกไหม้ในศาลา เนื่องจากมีกลุ่มควันออกมา จึงได้รีบประสานขอรถน้ำดับเพลิง พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากไม่มีใครอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ที่แท้จริงต่อไปด้วย