ปลัด สธ.ยัน “ผ่อนปรนระยะที่ 1” พร้อมเริ่ม อีก 14 วัน ถ้าพบติดเชื้อไม่เกิน 30 คน เริ่มเฟส 2 ทันที
โควิด-19- เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวชี้แจงถึงการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 ที่สืบเนื่องกับตัวเลขจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ว่า จากการคาดการณ์ของประเทศไทย ขณะนี้มีสถิติผู้ป่วยใหม่ประมาณวันละ 7-9 ราย มาเป็นระยะเวลา 4 วัน และมีผู้ป่วยที่ยังอยู่ในการรักษาที่โรงพยาบาล (รพ.) เพียง 213 ราย
นพ.สุขุม กล่าวว่า ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ศบค.ได้ดำเนินการในการจัดสถานที่กักกันที่รัฐบาลจัดไว้ (State quarantine ) จึงทำให้ผู้ป่วยจำนวนน้อยลง เพราะถ้าหากไม่มีสถานที่กักกันตามที่ดำเนินการนั้น คาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 1 หมื่นราย
“ขณะนี้สถิติของประเทศไทยพบผู้ป่วยใหม่หลักไม่เกิน 10 ราย พร้อมทั้งยังมีการควบคุมผู้เดินทางเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงคิดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยด้านมาตรการผ่อนปรนจะเป็นไปได้ด้วยดี และยังคงต้องดำเนินตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ดูแลตัวเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ รวมถึงการหลีกเลี่ยงที่ชุมชน กิจกรรมต่างๆ” นพ.สุขุม กล่าว
ปลัด สธ. กล่าวว่า ทางคณะทำงานจะพยายามปรับเพื่อให้มีการดำเนินการที่ง่ายที่สุด มีผลกระทบน้อยที่สุด ในระยะแรก คาดว่าจะดำเนินการได้ทันที โดยในระหว่างนี้ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือ หน่วยงานภาคเอกชนยังต้องมีมาตรการทำงานที่บ้าน (work from home) หลีกเลี่ยงการออกมาสู่ที่ชุมชน การใช้รถสาธารณะ หากดำเนินการได้ดี ภายในระยะเวลา 14 วัน จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ไม่น่าจะเพิ่มเกิน 20-30 ราย และหากระยะที่ 1 ดำเนินการไปแล้วพบผู้ป่วยในจำนวน 20-30 ราย ก็จะสามารถดำเนินการในระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไปได้