เตือน! หญิงตั้งครรภ์ติดโควิดเสี่ยงป่วยหนัก คลอดก่อนกำหนด-รกเสียหาย

วันนี้ ( 29 มิ.ย. 63 )ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐเปิดเผยรายงาน ว่า สตรีมีครรภ์อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเจ็บป่วยอย่างรุนแรงจากโรคโควิด-19

โดยซีดีซีได้รับรายงานระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-7 มิ.ย.ที่ผ่านมา  มีสตรีตั้งครรภ์ 8,207 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9% ของสตรีวัยเจริญพันธุ์ที่มีข้อมูลว่าอยู่ในสถานะตั้งครรภ์

รายงานยังระบุด้วยว่า ในกลุ่มวัยรุ่นและสตรีอายุระหว่าง 15-44 ปีที่ติดเชื้อโควิด-19 นั้น การตั้งครรภ์เพิ่มความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องดูแลผู้ป่วยวิกฤติ และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ  อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์มีโอกาสเสี่ยงน้อยที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต 

ปัจจุบันแม้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าโควิด-19 สามารถแพร่จากแม่ตั้งครรภ์ไปยังทารกในครรภ์ได้  แต่จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อจากไวรัสตระกูลโคโรนาสายพันธุ์อื่น อย่างโรคซาร์ส และโรคเมอร์ส ของ CDC ก็เผยว่า แม่ตั้งครรภ์ติดโควิด-19 อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ เช่น การคลอดก่อนกำหนด  

ขณะที่ตัวอย่างหญิงจีนซึ่งติดเชื้อโควิดแต่คลอดลูกเป็นปกติแต่พบว่า "รก" ได้รับความเสียหาย หลังการไหลเวียนเลือดจำนวนมากถูกปิดกั้นและรกส่วนใหญ่เล็กกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงเกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์บางกรณีได้ 

ข้อมูลจาก The Scientist  ได้สรุป ภาพรวมเจ้าเชื้อ SARS-CoV-2 นั้นสามารถโจมตี อวัยวะได้หลากหลาย มากกว่าที่จะจดจ่อในการทำลายอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง เช่น ระบบทางเดินหายใจ เท่านั้น เนื่องจากเนื้อเยื่ออวัยวะ มีโปรตีนตัวรับ2ชนิดของร่างกายที่ใช้ในการนำไวรัสเข้าเซลล์  และ1ในอวัยวัยะนั้นคือ รก ในครรภ์ของสตรี  รวมถึง ดวงตา,โพรงจมูก,สมอง,ปอด,หัวใจ,ลำไส้เล็ก,ตับ,กะเพาะปัสสาวะ,ไต,ตับอ่อน,ต่อมลูกหมากและอัณฑะ  

อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะ ในร่างกายหลังติดเชื้ออาจจะไม่ได้มาจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยตรง อาจจะมาจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเองที่สามารถทำลายอวัยวะหรือระบบต่างๆ ซึ่งก็เป็นผลมากจากการติดเชื้อไวรัสนั่นเอง เช่นการตอบสนองจากระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดโรคคล้ายคาวาซากิ ในเด็ก ที่มีรายงานในฝั่งอเมริกา