รีเซต

สินค้าไทยยังฮอต! 2 เดือนแรกปี 2568 โต 24.11% รัฐปูพรมขยายตลาดใหม่

สินค้าไทยยังฮอต! 2 เดือนแรกปี 2568 โต 24.11% รัฐปูพรมขยายตลาดใหม่
TNN ช่อง16
21 พฤษภาคม 2568 ( 12:06 )
3

เวลา 08.30 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานข้อมูลการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ปี 2568 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวมทั้งสิ้น 15,086.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 81.36% ของมูลค่าสินค้าส่งออกที่ได้รับสิทธิฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 24.11%

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) สูงสุดเป็น

อันดับหนึ่ง มูลค่า 5,303.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 68.50% 

อันดับสอง ความตกลงอาเซียน - จีน (ACFTA) มูลค่า 3,163.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 90.66% 

อันดับสาม ความตกลงอาเซียน - อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 3,206.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ อยู่ที่ 89.97% 

อันดับสี่ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 1,027.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 75.93% 

อันดับห้า การค้าเสรีไทย - ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 894.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ อยู่ที่ 58.16%

ภาพรวมของสินค้า 5 อันดับแรกที่มีการใช้สิทธิฯ FTA ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ 

1. แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผง มูลค่า 1,513.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

2. ยานยนต์สำหรับขนส่งของอื่น ๆ (เครื่องยนต์ดีเซลหรือกึ่งดีเซล) น้ำหนักรวมไม่เกิน 5 ตัน มูลค่า 999.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 3.แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผงอื่น ๆ มูลค่า 697.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

4. ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มูลค่า 602.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

5. น้ำตาลที่ได้จากอ้อยอื่น ๆ มูลค่า 372.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐยังเดินหน้าเจรจาความตกลง FTA ฉบับใหม่กับประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ อาทิ ไทย - ศรีลังกา ไทย - สมาคมการค้าเสรียุโรป (เอฟต้า) ไทย - ภูฏาน   เป็นต้น เพื่อขยายตลาดการส่งออกใหม่ๆ และลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ การใช้สิทธิภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไม่เพียงช่วยผลักดันการส่งออกของไทยให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และขยายโอกาสทางการค้าในระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างอินเดีย ซึ่งไทยกำลังเร่งเจรจาขยายความตกลงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยก้าวสู่เวทีโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์ ย้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง