ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ระบุการระบาดของโควิด-19 อาจจะทำให้ประชาชนมากถึง 80 ล้านคนในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย

ADB ซี่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ กล่าวจากแบบจำลองของ ADB พบว่า ความยากจนขั้นรุนแรง ซึ่งหมายถึงสัดส่วนประชาชนที่มีเงินรายได้ต่ำกว่าวันละ 1.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 63 บาท

โดยอัตราความยากจนขั้นรุนแรงจะลดลงไปอยู่ที่ 2.6% ในปี 2020 จาก 5.2% ในปี 2017 หากไม่มีการระบาดของโควิด-19 แต่วิกฤตการณ์ของโรคระบาดทำให้อัตราความยากจนขั้นรุนแรงของเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 2% จากที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

 

 

ADB กล่าวในรายงานด้วยว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ หากพิจารณาในเรื่องความไม่เท่าเทียมในด้านต่าง ๆ เช่น สุขภาพ การศึกษาและการที่ต้องหยุดการทำงานที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่กระทบกับการเดินทางหรือการเคลื่อนย้ายของประชากรและทำให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักไป

 

 

ADB ระบุด้วยว่า มาตรการในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบในด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกำลังปรากฎให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะความยากจน จากรายงานของบรรดาประเทศในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งหมายถึงประเทศกำลังพัฒนา 46 ชาติ และประเทศพัฒนาแล้ว 3 ชาติที่เป็นภาคีสมาชิกของ ADB มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้ในปีที่ผ่านมา

 

 

ขณะที่อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้ชั่วโมงการทำงานลดลงประมาณ 8% ซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีฐานะยากจนและแรงงานนอกระบบ นอกจากนั้น ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ยังเพิ่มความท้าทายให้ภูมิภาคนี้ ในการที่จะบรรลุซึ่งเป้าหมายด้านการพัฒนา ที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดไว้เมื่อปี 2015