อภ.เซ็นซื้อเอทีเค 8.5 ล้านชุด 30 ส.ค.นี้ ล็อตแรกถึงไทยไม่เกิน 8 ก.ย.
ความคืบหน้ากรณีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ทำหนังสือแจ้งให้บริษัทตัวแทนนำเข้าชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (เอทีเค) ยี่ห้อเล่อปู๋ (LEPU) ภายใต้ชื่อ “SARS-CoV-2 Antigen Rapid Test” ซึ่งผลิตโดย Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ชนะการประมูลในราคาต่ำสุดชุดละ 70 บาท เตรียมพร้อมเอกสารเพื่อร่วมลงนามสัญญาซื้อขายเอทีเค จำนวน 8.5 ล้านชุด ในเร็วๆนี้ เพื่อส่งมอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนใช้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยตัวเอง และให้เป็นไปตามข้อสั่งการที่นายกรัฐมนตรี ที่ระบุให้เร่งดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเคให้เร็วที่สุด เพื่อให้เอทีเคถึงมือประชาชนโดยเร็วนั้น
วันนี้ (25 สิงหาคม 2564) นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด และ กรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนผู้นำเข้าเอทีเคเล่อปู๋ ร่วมกับ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า การลงนามสัญญาดังกล่าวคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคมนี้
“โดยขณะนี้บริษัทได้รับหนังสือแจ้งจากทาง อภ.แล้ว และภายใน 1-2 วันนี้ คาดว่า อภ.จะมีการส่งสัญญามาให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทได้ตรวจทานในรายละเอียดก่อนลงนามสัญญาอีกครั้ง ทั้งนี้ เนื่องจากจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาในสัญญาในประเด็นที่ว่า อภ.จะขอตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกล็อตการผลิตที่นำเข้ามา โดยจะส่งให้ห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ต่างๆ ที่น่าเชื่อถือนำไปทดสอบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าได้ของดี มีคุณภาพ” นางศิริญา กล่าว
ทั้งนี้ นางศิริญา กล่าวว่า หากสามารถลงนามสัญญาได้ภายในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ คาดว่าผลิตภัณฑ์เอทีเคล็อตแรกจะทยอยเข้าประเทศไทยได้ภายในวันที่ 7-8 กันยายน 2564 ทั้งนี้ในการจัดส่งเอทีเคจำนวน 8.5 ล้านชุด จะเป็นการทยอยจัดส่งผ่านสายการบินล็อตละ 800,000 -850,000 ชุด ซึ่งขณะนี้บริษัทได้จองเที่ยวบินที่จะส่งมาจากประเทศจีนไว้แล้ว 11 เที่ยวบิน
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าสนามบินทั้ง 2 แห่ง ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ยังปิดอยู่ จึงได้หนังสือประสานไปยังทูตพาณิชย์เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกด้วย เนื่องจากประเทศไทยจำเป็นต้องใช้เอทีเคเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเร่งด่วน และเร็วที่สุด เราต้องการให้เอทีเคถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด ถ้าทำกันอย่างเต็มที่ภายในเดือนกันยายนนี้ มั่นใจว่าเราจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติกันได้เร็วขึ้น และสถานประกอบการก็จะสามารถทยอยเปิดดำเนินการได้” นางศิริญา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้บริษัทมีการประกาศให้ประชาชนสั่งซื้อเอทีเคเล่อปู๋ล่วงหน้า (พรี-ออร์เดอร์) ในราคาถูกชุดละ 75 บาท นางศิริญา กล่าวว่า ในส่วนนี้เปิดให้ซื้อเพียง 5 วันเท่านั้น และหลังจากนี้จะไม่มีราคานี้อีก โดยขณะนี้มีทั้งสถานประกอบการ โรงงาน และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจสั่งซื้อกันแล้วยอดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านชิ้น คาดว่าผลิตภัณฑ์ส่วนนี้จะเข้ามากระจายให้ผู้ที่สั่งจองภายใน 14-30 วัน
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่จะมีร้านขายยาสั่งซื้อในราคาถูก แล้วนำไปขายให้ประชาชนในราคาที่แพงขึ้น นางศิริญา กล่าวว่า เชื่อว่าร้านขายยาก็สั่งซื้อไปขายในร้าน แต่หากจะนำไปทำราคาให้สูงขึ้นก็ไม่น่าจะสูงเกินกว่า 120 บาท แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผลิตภัณฑ์เล่อปู๋ออกมาขายในร้านขายยา ก็เชื่อว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่นๆ แน่นอน และประชาชนสามารถเข้าถึงได้ด้วย
ต่อข้อถามว่า หลังจากนี้บริษัทจะนำเข้ามาขายแบบทั่วไปด้วยหรือไม่ นางศิริญา กล่าวว่า ต้องนำเข้ามาแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาราคาขายที่เหมาะสม แต่ในเบื้องต้นขณะนี้ขอนำเข้าในสัดส่วนที่ภาครัฐเตรียมจัดซื้อเพื่อแจกประชาชนใช้ฟรีก่อน