KWM ชู “PEGASUS” โตแรงสวนตลาด 40%

#KWM #ทันหุ้น - KWM ชู “PEGASUS” แรงสวนตลาด โต 30–40% พร้อมตอกย้ำสิทธิ์เทคโนโลยีเฉพาะรายเดียวในตลาด ช่วยเกษตรกรลดต้นทุน ลดการเผา เพิ่มประสิทธิภาพแบบเห็นผลจริง ชี้ปลายปี 2568 ภาคเกษตรไทยเผชิญมรสุม ดีมานด์หด กำลังซื้อเกษตรกรชะลอ แถมราคาพืชผลผันผวนกดดัน
นายอุกฤษณ์ วนโกสุม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับการเกษตร เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า สถานการณ์ภาคการเกษตรช่วงปลายปี 2568 ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากดีมานด์โดยรวมในตลาดลดลงจากปีก่อน ขณะที่เกษตรกรจำนวนมากยังเลือกชะลอการลงทุนระยะยาว เพราะไม่มั่นใจในทิศทางราคาพืชผล และกังวลต่อการแข่งขันที่สูงขึ้นในหลายตลาด
โดยเฉพาะ “ข้าว” ซึ่งเป็นพืชหลักของเกษตรกรไทยกว่า 40% ยังคงอยู่ในสภาวะไม่แน่นอนจากการแข่งขันในตลาดโลก โดยประเทศคู่แข่งอย่างอินเดียและเวียดนามสามารถตั้งราคาขายข้าวได้ต่ำกว่า ส่งผลต่อราคาภายในประเทศ ขณะที่พืชไร่อย่างข้าวโพดเริ่มทรงตัว ส่วนอ้อยอยู่ระหว่างช่วงโรงงานเคาะราคาในเดือนธันวาคม และมันสำปะหลังเผชิญภาวะราคาดิ่งแรงจากกว่า 4 บาท เหลือเพียงราว 1 บาทกว่า
แม้ตลาดรวมจะซบเซา แต่ KWM ยังสามารถรักษายอดขายโดยรวมให้ใกล้เคียงเดิมได้ โดยมี “ใบจักร PEGASUS” เป็นหัวหอกหลักของการเติบโต สำหรับยอดขายของผลิตภัณฑ์นี้เติบโตแรงกว่า 30-40% เนื่องจากตอบโจทย์นโยบายภาครัฐเรื่อง “การไม่เผา” ในภาคเกษตร โดยเทคโนโลยีของใบจักรสามารถช่วยเกษตรกรสับเศษวัสดุแทนการเผา ลดมลภาวะ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้จริง ทั้งนี้ใบจักร PEGASUS เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ KWM รายเดียวในตลาด ทำให้มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและคุณภาพ โดยเกษตรกรนิยมเปลี่ยนเฉพาะใบมีดแทนการซื้อเครื่องจักรใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก
สำหรับในไตรมาส 3/2568 บริษัทและบริษัทย่อยมี รายได้จากการขายและการให้บริการ 57.11 ล้านบาท ลดลง 46 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.61 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 3.68 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ ร้อยละ 6.44 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 7.78 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น ร้อยละ 67.89
สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 304.5 ล้านบาท ลดลง 93.95 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.58 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปัจจัยเดียวกันกับไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม กลุ่มสินค้าใบเกลียวและใบมีดตีดิน (Rotary) ยังคงเติบโตจากปีก่อนได้เล็กน้อย ขณะที่กำไรสุทธิ 32.63 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ ร้อยละ 10.72 ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.42 ล้านบาท หรือคิดเป็น ร้อยละ 24.20
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
