ชายแดนไทย-กัมพูชาสถานการณ์ปกติ กองทัพไทยยังตรึงกำลังเฝ้าระวังปกป้องอธิปไตย

วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด อยู่ในสภาวะปกติ ไม่ปรากฎเหตุการณ์ที่สำคัญ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 จุด พร้อมเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและป้องกันไม่ให้ใครล่วงล้ำ
ขณะที่ ศบ.ทก.ยังคงตรวจพบการบินอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลขอย้ำว่า แม้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะออกประกาศผ่อนปรนอนุญาตให้สามารถทำการบินหรือปล่อยโดรนทุกประเภทได้ แต่ยังคงยกเว้นพื้นที่ตามประกาศฉบับที่ 4 ของ กพท. อาทิ จังหวัดสระแก้ว ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ จันทบุรี สุรินทร์ และอุบลราชธานี ฯลฯ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าในช่วง 18 -20 สิงหาคม ที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการปฏิบัติตาม GBC เมื่อ 7 ส.ค. 68 ซึ่งคณะได้เข้าสังเกตการณ์ทั้งในพื้นที่พลเรือนที่ไทยได้รับความเสียหายจากการโจมตีจากกัมพูชา รวมถึงพื้นที่ที่กัมพูชาได้ลอบวางกับระเบิดในดินแดนของไทย ซึ่งเป็นการละเมิดมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
ในโอกาสนี้ รัฐบาลขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้ ช่วยเปิดเผยความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์ได้นำข้อมูลดังกล่าวแจ้งไปยังประเทศของตนต่อไป
ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงเดินหน้าแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์แก่ประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
โดยกระทรวงการต่างประเทศจะนำหลักฐานคลิปวิดีโอที่ตรวจพบในโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ตกอยู่ในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ที่แสดงให้เห็นการถือและสาธิตวิธีใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงและอนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงไปประกอบการชี้แจงฟ้องกัมพูชาในกรอบอนุสัญญาออตตาวา โดยในวันที่ 22 สิงหาคม นี้ จะมีการประชุม คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาเป็นการเฉพาะ (Committee on Cooperative Compliance) ณ นครเจนีวา ซึ่งผู้แทนของไทยจะร่วมเสนอข้อเท็จจริงจากหลักฐานดังกล่าวด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดตั้งแต่เกิดเหตุปะทะกระทบประชาชน 7.7 แสนชีวิต
รัฐบาลย้ำพื้นที่ “บ้านหนองจาน” เป็นของไทย 100% เตือนกัมพูชาอย่าใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์
รัฐบาลขอบคุณคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ช่องอานม้า ตรวจสอบกรณีกัมพูชารุกเข้ามาตัดลวดหนาม
ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาวไม่ใช่อาวุธเคมี-กัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
