รมช.คลัง ยันมุ่งมั่นจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ให้สำเร็จลุล่วงภายใน 4 เดือน

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหามียอดสูงถึงกว่า 13.55 ล้านล้านบาท หรือเกือบร้อยละ 90 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และที่น่าเป็นห่วงคือ ร้อยละ 50 ของหนี้ครัวเรือนดังกล่าวเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งแตกต่างจากบริบทของประเทศอื่น

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ NPL ยังอยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 8 นอกจากนี้ยังพบหนี้ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ หนี้ที่มีการชำระไม่ตรงกำหนด และหนี้ที่เริ่มมีปัญหาแม้ชำระตรงเวลาและขอปรับโครงสร้างหนี้ในภายหลัง ภาวะดังกล่าวถือเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐบาลจึงมีนโยบายเร่งรัดให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการโอนหนี้เสีย (NPL) ออกจากระบบธนาคารโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ธนาคารมีสภาพคล่องและสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ โดยเสนอแนวทางให้มีการจัดตั้งกิจการร่วมค้า (Joint Venture - JV) ระหว่างธนาคารกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ในกรณีที่การต่อรองราคาขายหนี้มีปัญหา จากนั้นให้โอนหนี้ไปยัง AMC เพื่อบริหารจัดการ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาหนี้มีความรวดเร็วและทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น อันเป็นมาตรการสำคัญเพื่อรับมือกับปัญหาที่การแก้ไขในอดีตมีความล่าช้า

สำหรับการแก้ไขปัญหาหนี้ในภาพรวม ได้มีการกำหนดแผนงาน (Roadmap) ที่ชัดเจน โดยมีแผนที่จะจัดการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ไขหนี้ภาคประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพไปพร้อมกัน

รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ควบคู่กันไป ด้วยการประสานงานกับทั้งธนาคารพาณิชย์ภาคเอกชนและธนาคารของรัฐ รวมถึงใช้กลไกของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาสนับสนุน โดยจะจัดให้มีโครงการใหม่พร้อมค้ำประกันวงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเครดิตสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น 

พร้อมทั้งจะร่วมกันสร้างช่องทางพิเศษเพื่อให้ SMEs ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญแต่ขาดสภาพคล่องได้รับการพิจารณาสินเชื่อที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนงานและเป้าหมายที่ชัดเจน และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้สำเร็จลุล่วงภายในระยะเวลา 4 เดือน