ปลัดสปน.เผย1-7ก.พ.นี้ลมอ่อนกำลัง วอนงดเผาลดใช้รถเพื่อลดฝุ่นPM2.5

ปลัดสำนักนายกฯ เผย 1-7 ก.พ. นี้ลมอ่อนกำลัง วอนงดเผา ลดใช้รถ เพื่อลดฝุ่น PM2.5 พร้อมประสานกัมพูชาหลังพบจุดความร้อนกว่า 4 พันจุด ช่วยลดหมอกควันข้ามแดน

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์

นายธีรภัทร เผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานการคาดหมายสภาวะอากาศและผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่นPM2.5 กรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 1-7 ก.พ. นี้ ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยบริเวณ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง ระดับเพดานการลอยตัวของฝุ่นละอองต่ำลง ทำให้แนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 จะเพิ่มสูงขึ้นในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ประกอบกับวันนี้(1ก.พ.) โรงเรียนทุกแห่งได้เริ่มเปิดให้มีการเรียนการสอนในโรงเรียนบางส่วน และพื้นที่ กทม.และทุกจังหวัด เริ่มผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ จากมาตรการโควิด-19 การจราจรจึงหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา

นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ขณะนี้เราต้องเจาะไปยังรายพื้นที่ที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ อาทิ รถยนต์ รถขนส่งสาธารณะ ในการตรวจเข้มเรื่องควันดำ หากพบเกินมาตรฐานจะมีการสั่งปรับ สั่งห้ามใช้อย่างเด็ดขาดจนกว่าจะมีการปรับปรุงสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อย รวมทั้งพื้นที่เส้นทางที่มีการจราจรติดขัด ต้องขอความร่วมมือในการห้ามจอดตามพื้นที่ต่างๆ เช่น หน้าตลาด เพื่อให้การจราจรมีสภาพคล่องมากขึ้น

นอกจากนี้ในพื้นที่เกษตรกรรมที่เริ่มจะมีการปลูกใหม่ จึงเริ่มมีการเผากันมากขึ้น โดยล่าสุดกรมควบคุมมลพิษ ได้บินสำรวจโดยเฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรฯ ก็พบมีการเผาเป็นวงกว้าง ทั้งนี้ต้องประสานไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร ช่วยประสานไปยังเกษตรจังหวัด อำเภอ และตำบล ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับเกษตรกร ซึ่งเราไม่ได้ห้ามเผา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากเป็นช่วงที่อากาศปิดต้องขอความร่วมมืองดการเผาเลย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ได้มาก

นายธีรภัทร กล่าวถึงการป้องกันไฟป่าในพื้นที่ป่าว่า ทางกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องมีการลาดตระเวนเชิงคุณภาพอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพราะหากมีไฟป่าและลามขึ้นไปบนเขาจะควบคุมไฟป่าได้ยาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันลาดตระเวนกันมากขึ้น ประสานกับทางชุมชนในพื้นที่ป่าเพื่อช่วยกันป้องกันไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมทั้งพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย

นายอรรถพล กล่าวเสริมว่า เนื่องจากขณะนี้เราพบว่าที่ประเทศกัมพูชามีจุดความร้อนกว่า 4,000 จุด โดยทางกรมควบคุมมลพิษได้ทำจดหมายไปยังเลขาธิการอาเซียนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือยังกัมพูชาในการควบคุมและลดจุดความร้อน เพราะกระแสลมจะพัดเข้ามายังประเทศไทยส่งผลให้ค่าฝุ่นมีปริมาณที่สูงขึ้นได้ จึงขอความร่วมมือในการช่วยกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน