รีเซต

สหรัฐเตรียมส่งอัฐิของอดีตปธน. 4 คน ขึ้นไปเป็นสถานีอนุสรณ์ในห้วงอวกาศไกลโพ้น

สหรัฐเตรียมส่งอัฐิของอดีตปธน. 4 คน ขึ้นไปเป็นสถานีอนุสรณ์ในห้วงอวกาศไกลโพ้น
TNN ช่อง16
4 มีนาคม 2566 ( 09:12 )
73
สหรัฐเตรียมส่งอัฐิของอดีตปธน. 4 คน ขึ้นไปเป็นสถานีอนุสรณ์ในห้วงอวกาศไกลโพ้น

บริษัทเซเลสทิส (Celestis) บริษัทเอกชนด้านอวกาศจากสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งบริษัทมาแล้วกว่า 20 ปี โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านเที่ยวบินรำลึกแก่ผู้สูญเสีย อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป บริษัทได้มุ่งเน้นการให้บริการส่งมนุษย์ไปในอวกาศ เช่น ไปยังส่วนลึกของอวกาศที่ไกลกว่าวงโคจรของโลกและดวงจันทร์ออกไป ทั้งนี้บริษัทยังมีการรับส่งอัฐิของผู้วายชนม์ไปนอกโลก และนอกจากรับส่งอัฐิแล้วยังรับนำแคปซูลที่บรรจุตัวอย่างดีเอ็นเอของมนุษย์หรือร่างของบุคคลอันเป็นที่รักไปกับเที่ยวบินด้วย



โดยการส่งอัฐิของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จะอยู่ในเที่ยวบินเอนเตอร์ไพรส์ ไฟลท์ (Enterprise Flight) โดยจะมีการปล่อยยานในช่วงปลายปีนี้ ไปยังบริเวณอวกาศไกลกว่าวงโคจรระหว่างโลกกับดวงจันทร์ที่จะเริ่มมีเทหวัตถุอื่น ๆ ตั้งอยู่ โดยบริษัทกล่าวว่า การส่งอัฐิออกไป จะเป็นเหมือนการเดินทางที่ไม่มีจุดสิ้นสุดสู่จักรวาลอันไกลโพ้น 


สำหรับการส่งยานดังกล่าวขึ้นไปบนอวกาศ จะใช้จรวดวัลแคน เซนทอร์ (Vulcan Centaur) ทำหน้าที่ลำเลียงอัฐิดังกล่าวออกจากแหลมคานาเวอรัล ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โดยเมื่อยานเอนเทอร์ไพรส์สิ้นสุดการเผาไหม้เชื้อเพลิง มันจะถูกเปลี่ยนจากยานไปเป็นสถานีเอนเตอร์ไพรส์ ซึ่งเซเลสทิสระบุว่า สถานีดังกล่าวจะกลายเป็นด่านหน้าที่ไกลที่สุดของพื้นที่การท่องอวกาศของมนุษย์ ซึ่งจะโคจรรอบดวงอาทิตย์ที่ระยะทาง 150-300 ล้านไมล์จากดาวโลก โดยไม่กลับมา

ประธานาธิบดีเคนเนดี ที่มาของรูปภาพ Reuters


เซเลสทิสระบุว่า พวกเขาเลือกใช้สถานีเอนเทอร์ไพรส์ให้เป็นยานเก็บข้อมูลของมนุษย์ด้วย DNA จากการเพิ่มอัฐิที่เหลือจากร่างของอดีตประธานาธิบดีสี่คน ได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน  (George Washington),โรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan),จอห์น เอฟ เคเนดี (John F. Kennedy) และ ดไวท์ ดี ไอเซนฮาว (Dwight D. Eisenhower) เพื่อบอกเล่าอารยธรรมในอนาคตที่จะเดินทางมาพบเจอสถานีดังกล่าว โดยในบันทึกบนสถานี จะบอกเล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมอเมริกาและผู้นำที่ล่วงลับไปแล้ว โดยใช้อัฐิเป็นวัตถุหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ ทีมงานได้เสนอคำอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดนี้ว่า เป้าหมายทั้งหมดทั้งมวลคือการนำ ดีเอ็นเอ (DNA) ของมนุษย์ผู้ซึ่งมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ขึ้นไปยังบนอวกาศ 


DNA ย่อมาจาก deoxyribose nucleic acid เป็นองค์ประกอบสำคัญในการช่วยศึกษาอดีตและวิวัฒนาการของมนุษย์ โดยในปีที่แล้ว มีการมอบรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ให้กับนักพันธุศาสตร์ ศาสตราจารย์ สวานเต พาโบ (Svante Pääbo) นักพันธุศาสตร์ประจำสถาบันมักซ์พลังก์เพื่อการศึกษามานุษยวิทยาวิวัฒนาการ (MPI-EVA) ของเยอรมนี ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการรางวัลโนเบลที่สถาบันคาโรลินสกาของสวีเดนในปีนี้ว่า เป็นผู้มีผลงานดีเด่นในการค้นพบข้อมูลพันธุกรรมของบรรพบุรุษมนุษย์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว รวมทั้งความลับของวิวัฒนาการมนุษย์ ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกและก่อตั้งสาขาวิชาพันธุศาสตร์ดึกดำบรรพ์ (Paleogenomics) ที่ช่วยให้เข้าใจความเชื่อมโยงของคนในยุคปัจจุบันกับมนุษย์ยุคหิน


ที่มาของข้อมูล interestingengineering

ที่มาของรูปภาพ celestis


ข่าวที่เกี่ยวข้อง