รีเซต

สรรพากรจับตากลุ่ม”รายได้อิสระ-อินฟลูฯ"เลี่ยงภาษี แนะยื่นแบบตามกำหนด

สรรพากรจับตากลุ่ม”รายได้อิสระ-อินฟลูฯ"เลี่ยงภาษี แนะยื่นแบบตามกำหนด
ทันหุ้น
9 มกราคม 2568 ( 12:04 )
8

 

สรรพากรจับตากลุ่ม”รายได้อิสระ-อินฟูลฯ”เลี่ยงภาษี แนะยื่นแบบตามกำหนด ขู่พบไม่ยื่นเจอเบี้ยปรับเงินเพิ่มย้อนหลัง จับมือบัญชีกลางบูรณาการข้อมูลเงินได้อำนวยความสะดวกกลุ่มข้าราชการ พร้อมโชว์ยอดจัดเก็บ 3เดือนเกินเป้าเกือบ 4พันล้าน ห่วงจัดเก็บรายได้นิติบุคคลกลางปีต่ำเป้า

 

#ทันหุ้น นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยยอดการจัดเก็บรายได้รอบ 3เดือนแรกของปีงบ 68 ว่า สามารถจัดเก็บได้ 4.7แสนล้านบาท เกินกว่าเป้าหมาย 3.9 พันล้านบาท ผลพวงจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ในประเทศที่ดีขึ้นถึง 12%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เราประเมินว่า ยอดการจัดเก็บรายได้ใน 6 เดือนแรกหรือจนถึงเดือนเม.ย.นี้ จะเป็นไปตามเป้าหมาย

 

อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลังของการจัดเก็บรายได้นั้น ยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะจากการยื่นแบบชำระภาษีของนิติบุคคลรอบครึ่งปี ซึ่งจะเป็นการยื่นแบบชำระภาษีของนิติบุคคล ที่จะเป็นการยื่นแบบตามผลประกอบการในครึ่งปีที่ผ่านมา โดยเศรษฐกิจในช่วงนั้น ยังไม่สามารถขยายตัวได้มากนัก ดังนั้น ก็อาจจะกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจและส่งผลต่อการชำระภาษีด้วย

 

ทั้งนี้ เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของกรมฯในปีงบประมาณ 68อยู่ที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 5%เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งกรมฯก็จะพยายามทำให้ได้ตามเป้าหมาย

 

เขายังกล่าวด้วยว่า ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.นี้ เป็นช่วงของการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงขอเชิญชวนให้ผู้มีรายได้เข้ามายื่นแบบ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน หรือประกอบอาชีพอิสระ เช่น กลุ่มค้าขายแบบซื้อมาขายไป ซึ่งรวมถึง การค้าขายแบบออนไลน์ กลุ่มอินฟูลเอนเซอร์ เมื่อมีรายได้ก็ขอให้มายื่นแบบแสดงรายการ หากตรวจพบว่า ไม่มายื่นแบบ จะต้องเสียค่าปรับเงินเพิ่มตามกฎหมาย

 

“เราขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีเงินได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบอาชีพอิสระกลุ่มซื้อมาขายไปมายื่นแบบแสดงรายได้ ซึ่งขณะนี้ เราใช้ระบบไอทีเข้ามาตรวจจับ หากพบว่า ไม่มายื่นแบบตามกำหนด จะต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มตามกฎหมาย กรณีเบี้ยปรับต้องเสีย 2เท่าของภาระภาษี บวกเงินเพิ่มอีก 1.5%ต่อเดือน กรณีจงใจสร้างเอกสารเป็นเท็จ หรือ ใช้ใบกำกับภาษีปลอมจะมีโทษอาญาด้วย”

 

ปัจจุบันผู้มีรายได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาเข้าสู่ระบบภาษีราว 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นผู้ที่มีภาระภาษีราว 4 ล้านคน ส่วนที่เหลือไม่ต้องเสียภาษีและได้ภาษีคืน ทั้งนี้ กรมฯมีเป้าหมายที่จะเพิ่มฐานภาษีบุคคลธรรมดาให้มากขึ้น โดยจะมอนิเตอร์กลุ่มผู้มีรายได้แต่ไม่เข้าสู่ระบบภาษีให้มากขึ้น

 

เขายังกล่าวด้วยว่า ในปีนี้กรมบัญชีกลางได้จับมือกับสรรพากรบูรณาการข้อมูลเงินได้และภาษีหัก ณ ที่จ่ายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำเหน็จบำนาญ เพื่ออำนวยความสะดวกในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) ของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำเหน็จบำนาญ สำหรับปีภาษี 2567 โดยข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำเหน็จบำนาญจะเห็นข้อมูลเงินได้และภาษี ที่ได้หักนำส่งไว้ในระบบ D-MyTax พร้อมให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำเหน็จบำนาญทำการตรวจสอบและยืนยันข้อมูล ก่อนนำเข้าระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร

 

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง การดำเนินการส่งข้อมูลจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยในระยะแรกจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้รับบำเหน็จบำนาญ จำนวน 900,000 รายก่อน ซึ่งในระยะแรกนี้ จากเดิมผู้รับบำเหน็จบำนาญจะต้องรอให้ได้รับหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากหน่วยงานต้นสังกัด หรือกรมบัญชีกลาง หรือต้อง Download จากระบบบำเหน็จบำนาญของกรมบัญชีกลาง และนำมากรอกในระบบ e - Filing ของกรมสรรพากร ซึ่งอาจผิดพลาดในการกรอกข้อมูลได้ โดยเปลี่ยนมาเป็นกรมบัญชีกลางจะส่งข้อมูลเงินได้และภาษีหัก ณ ที่จ่ายของผู้รับบำเหน็จบำนาญทั้ง 900,000 รายให้กับกรมสรรพากรในวันนี้ (9 มกราคม 2568) และกรมสรรพากรจะนำเข้าระบบ D-MyTax ของกรมสรรพากร โดยผู้รับบำเหน็จบำนาญสามารถเข้าตรวจสอบข้อมูลในระบบ D-MyTax ของกรมสรรพากรได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2568 เป็นต้นไป

 

สำหรับการดำเนินการในระยะที่สอง จะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลของข้าราชการ และลูกจ้างประจำจำนวน 1,300,000 ราย ซึ่งจะมีขั้นตอนมากกว่า กล่าวคือ ส่วนราชการจะต้องประมวลผลและส่งให้กรมบัญชีกลาง เพื่อรวบรวมและจัดส่งให้กรมสรรพากร จึงคาดว่าน่าจะเริ่มส่งข้อมูลข้าราชการและลูกจ้างประจำชุดแรกให้กับกรมสรรพากรได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และชุดที่สองในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง