เงินบาทเช้านี้ 26 มิ.ย. 2568 เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.40-32.70 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องทดสอบโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง (แกว่งตัวในกรอบ 32.50-32.67 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ซึ่งมาจากทั้งโฟลว์ธุรกรรมขายเงินดอลลาร์ในฝั่งของบรรดาบริษัทเอกชน (จากการสำรวจของนักวิเคราะห์หลายๆ ที่) ในช่วงปลายเดือน รวมถึงการทยอยลดสถานะถือครองเงินดอลลาร์ ตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทยอยคลี่คลายลง
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากรายงานข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจเตรียมเสนอรายชื่อประธานเฟดคนใหม่ภายในช่วง Summer ของสหรัฐฯ ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า “ว่าที่” ประธานเฟดคนใหม่ อาจมีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดต่างเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และอีก 3 ครั้ง ในปีหน้า นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมตามการรีบาวด์สูงขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) จากโซนแนวรับแถว 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับ 3,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้ง คาดการณ์ครั้งสุดท้ายของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2025 ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ในเดือนพฤษภาคม และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในอนาคต
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท โมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้นยังมีกำลังอยู่ โดยเฉพาะในจังหวะที่เงินดอลลาร์ก็ทยอยอ่อนค่าลง ส่วนราคาทองคำก็มีจังหวะรีบาวด์สูงขึ้นบ้างจากโซนแนวรับ อย่างไรก็ดี เรามองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากในฝั่งตลาดการเงินไทย บรรดาผู้เล่นในตลาด อย่างฝั่งผู้นำเข้า อาจทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์บ้าง แถวโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ หรือระดับแข็งค่ากว่านั้นเล็กน้อย ในช่วงปลายเดือน
ซึ่งอาจตรงข้ามกับโฟลว์ธุรกรรมของบรรดาบริษัทเอกชนในต่างประเทศ ที่ช่วงนี้เป็นฝั่งการทยอยขายเงินดอลลาร์ (Net USD Selling) และเห็นการทยอยเพิ่มสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยง (Hedging Ratio) จากบรรดาผู้เล่นในตลาดมากขึ้น (ทั้งฝั่งนักลงทุนและบริษัทเอกชน) โดยหากเงินบาทสามารถแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ก็มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นต่อทดสอบโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเรามองว่า อาจเป็นโซนแนวรับที่แข็งแกร่งพอควรในระยะสั้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
