'ลาว' บังคับนักเดินทาง 'ตรวจโควิด-19' เมื่อมาถึง สกัดติดเชื้อบนเที่ยวบิน

ข่าววันนี้ 21 เม.ย. (ซินหัว) -- วันพุธ (21 เม.ย.) ศูนย์ข้อมูลและการศึกษาเพื่อสุขภาพ สังกัดกระทรวงสาธารณสุขลาว เผยว่านักเดินทางทุกคนที่เดินทางเข้าลาวผ่านท่าอากาศยานนานาชาติวัตไตในนครหลวงเวียงจันทน์ต้องเข้ารับการทดสอบพีซีอาร์ (PCR) ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงต้องเข้ารับการทดสอบแบบรวดเร็ว ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และแสดงเอกสารที่จำเป็นต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ลาวกำหนดให้นักเดินทางขาเข้าทุกคนเข้ารับการทดสอบแบบรวดเร็วเมื่อเดินทางมาถึง หลังพบว่าการทดสอบพีซีอาร์ที่ดำเนินการ 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางนั้นไม่เพียงพอต่อการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เนื่องจากอาจมีการติดเชื้อบนเที่ยวบินได้ โดยนักเดินทางต้องรอผลตรวจที่โรงแรม หากผลตรวจเป็นลบจะสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ แต่หากผลตรวจเป็นบวกจะต้องกักตัวที่โรงแรมต่อไปในกรณีมีอาการเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการ
ขณะผู้ประกอบการทัวร์มีหน้าที่จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นเพื่อขออนุญาตให้ลูกทัวร์เข้าประเทศ ซึ่งครอบคลุมข้อเสนอจากบริษัททัวร์ กำหนดการเดินทาง การจองโรงแรม รวมถึงสำเนาหนังสือเดินทางของผู้เดินทาง ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และกรมธรรม์ประกันภัย
ด้านกระทรวงการต่างประเทศลาวจะมอบอำนาจให้บุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจทางการทูตหรือกงสุล ผู้ทำงานในองค์กรระหว่างประเทศ และคณะผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานต่างประเทศที่ปฏิบัติงานในลาว รวมถึงคู่สมรส บิดามารดา และบุตรของพวกเขา สามารถเดินทางเข้าประเทศ แต่ต้องตรวจโรคโควิด-19 เมื่อเดินทางถึง และกักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 24 ชั่วโมงระหว่างรอผลตรวจ
ทั้งนี้ ลาวมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 203,545 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 730 ราย เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (21 เม.ย.)