รอรับเงินเยียวยา "ผู้ประกันตน ม.33" ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝากต้องทำอย่างไร?
วันนี้( 1 ส.ค.64) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้จ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานผู้ประกันตน มาตรา 33 และผู้ประกอบการ เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม10 จังหวัด ซึ่งกลุ่มจังหวัดที่ ศบค.ประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ใน 9 ประเภทกิจการ ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วจะเริ่มจ่ายเยียวยาในวันที่ 4 สิงหาคม ซึ่งเป็นการจ่ายเร็วขึ้นจากเดิมกำหนดไว้วันที่ 6 สิงหาคม โดยผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 10 จังหวัดดังกล่าว 2 ล้าน 8.7 แสนคน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการโอน 3 วัน เนื่องจากระบบการโอนเงินผ่านพร้อมแพย์ สามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชีเท่านั้น และจะทยอยโอนครั้งต่อไปให้กับนายจ้าง
ส่วน การจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกอบการใน 9 ประเภทกิจการ ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นมาอีก 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเร่งรัดให้ดำเนินการจึงได้ข้อสรุปจะจ่ายเยียวยาในวันที่ 9 สิงหาคม โดยในพื้นที่ 3 จังหวัด มีผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์ จำนวน 272,746 คน นายจ้าง 19,213 ราย
ทั้งนี้ นายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่จะได้รับเงินเยียวยา สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่เว็บไซด์สำนักการประกันสังคม หรือโทรศัพท์ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่ หากยังไม่ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนสามารถดำเนินการผูกได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนคารที่มีบัญชีอยู่ ทั้งโมบาย์ แอปพลิเคชัน อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง และตู้เอทีเอ็ม
ส่วนกรณีที่ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถเปิดบัญชีผ่านทางออนไลน์แล้ว ลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาได้เลย โดยต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 4 สิงหาคมนี้
ทั้งนี้ ผู้ประกันตน ม.33 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือโทรศัพท์สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง