BAY เปิดแผนธุรกิจฉบับใหม่ ธ.แห่งเอเชีย-สินเชื่อปีนี้โต5%
#BAY #ทันหุ้น – BAY เปิดแผน 3ปีมุ่งสู่ธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน-ทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปีพัฒนาโครงข่าย ITเชื่อมโยงทั้ง 11 ประเทศมุ่งสนับสนุนลูกค้าไปลงทุนต่างประเทศ ตั้งเป้าสินเชื่อรวมปี 2567 โต3-5% เน้นพอร์ตสินเชื่อรายย่อยในต่างประเทศ มั่นใจคุม NPL 2.5-2.75%
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY เปิดเผยว่า กลุ่ม BAY เปิดเผยว่า ธนาคารประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศยังคงทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐบาล, ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่ปัจจัยกดดันหลักๆ อาทิ ความขัดแย้งทางรัฐภูมิศาสตร์, ภาวะเงินเฟ้อ และสภาพอากาศที่แปรปรวน
*สินเชื่อโตต่อ3-5%
ด้วยมุมมองดังกล่าว ทำให้บริษัทมีเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2567 ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ระดับ 3-5% ต่อเนื่องจากวงเงินให้สินเชื่อรวมทั้งปี 2566 ที่ 2,017,204 ล้านบาท (YoY) แบ่งเป็นส่วนของสินเชื่อธุรกิจเติบโต 4-6% สินเชื่อ SME เติบโต 2-3% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 3-5% แบ่งเป็นสินเชื่อรายย่อยในประเทศเติบโต 2-3% ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ต้องการดูแลหนี้ครัวเรือน ขณะที่สินเชื่อรายย่อยในต่างประเทศเติบโต 13-15%เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโตอีกสูงจากฐานที่ยังต่ำ
"คุณภาพของสินเชื่อธนาคารในปัจจุบันอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ส่วนแนวทางการจัดเก็บหนี้ก็ปฏิบัติตามแนวทางที่ธปท.และสมาคมธนาคารไทยมีออกมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นเอ็นพีแอลก็จะให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่การปล่อยสินเชื่อใหม่ก็จะเพิ่มความระมัดระวัง และดำเนินตามแนวทางการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ"
พร้อมกันนี้ ตั้งเป้าหมายของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.8-4.1% ธนาคารคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ราว 2.50-2.75% ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost-to-income ratio) จะอยู่ในระดับ mid-40%
เป็นธนาคารแห่งภูมิภาคเอเชีย
ขณะเดียวกันธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานระยะ 3 ปี โดยตั้งเป้าเป็น ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเซีย ในปี 2567-2569 นี้ นับเป็นการเริ่มต้นแผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ 4 โดยมุ่งเป้ายืนหนึ่งการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ทำให้กรุงศรีเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืนเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ MUFG ที่ต้องการมุ่งสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันทั้งในด้านความยั่งยืน การเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบและการพัฒนาชุมชน
"แผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ประจำปี 2567-2569 เป็นมากกว่าแผนงาน โดยแก่นหลักของแผนฉบับนี้คือความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็น 'ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน' ที่สะท้อนถึงคำมั่นสัญญาขององค์กรสู่อนาคตที่ยั่งยืนและการสร้างความแข็งแกร่งในระดับภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้งกล่าว โดยแผนธุรกิจฉบับนี้มุ่งเป้าไปยังสามประการหลักได้แก่ การเป็นธนาคารชั้นนำเพื่อความยั่งยืน การขับเคลื่อนความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค และการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจหลักของธนาคาร"
โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่าย MUFG และเครือข่ายของธนาคารกรุงศรีที่ครอบคลุมใน 10 ประเทศทั่วภูมิภาคอาเซียน และบริษัทในเครือ ที่กระจายอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และ สปป.ลาว ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ และพร้อมส่งเสริมขีดความสามารถตั้งแต่การเชื่อมโยงลูกค้าธุรกิจชาวไทยกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้เข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายของธนาคารที่มีอยู่ในอาเซียนและญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบประมาณการลงทุนเฉลี่ยปีละ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อเนื่องระยะ 3 ปี (25667 – 2569) โดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงระบบไอทีและโซลูชันต่างๆ ของทั้งธนาคาร และบริษัทในกลุ่ม มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในแต่ละพื้นที่ในภูมิภาคเอเซีย โดยจะเน้นเรื่องดิจิทัล ดาต้า ระบบนิเวศและการสร้างพันธมิตรเป็นแกนสำคัญในการดำเนินงาน