ไวรัสโควิด-19 คร่าชีวิตชาวสหรัฐฯ ใกล้ 200,000 รายแล้ว

วันนี้ (22ก.ย.63) ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ขยับเข้าใกล้ 200,000 รายแล้วในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ยังคงรักษาสถิติสูงที่สุดในโลกไว้ต่อไป โดยสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยรายวัน ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 800 รายต่อวันจากข้อมูลของรอยเตอร์ ซึ่งลดลงจากระดับสูงสุด 2,806 รายเมื่อวันที่ 15 เมษายน 

ระหว่างการระบาดของไวรัสในช่วงเดือนแรก ๆ มีการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตสูงสุด 200,000 ราย แต่ขณะนี้สหรัฐอาจมีผู้เสียชีวิตครบ 200,000 รายในวันจันทร์ หรือไม่ก็วันอังคารนี้แล้ว

ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้นอีก ทั้งในสหรัฐและยุโรป โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า ความเลวร้ายที่สุดสิ้นสุดลงแล้ว ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 199,808 ราย และติดเชื้อแล้ว 6.8 ล้านราย ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ยอมรับว่าปฏิเสธความอันตรายของไวรัสในช่วงแรก เพราะไม่ต้องการ “สร้างความแตกตื่น” 

เหลือเวลาไม่ถึง 6 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ทรัมป์ยังมีคะแนนนิยมตามหลังนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต  จากผลการสำรวจความคิดเห็นของโพลทุกสำนัก และยังมีคะแนนสูสีในรัฐที่เป็นรัฐสวิง สเตท ที่สำคัญ ซึ่งการบริหารจัดการปัญหาการระบาดของไวรัสของทรัมป์และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของทรัมป์อย่างมากในหมู่ประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 

ทรัมป์มักตั้งคำถามคัดค้านคำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับทุกสิ่งในเรื่องกรอบเวลาการมีวัคซีน จนถึงการเปิดโรงเรียนและธุรกิจครั้งใหม่ รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เขายังปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ และจัดชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่ โดยที่ผู้เข้าร่วมชุมนุมสวมหน้ากากอนามัยไม่กี่คนเท่านั้น 

สถาบันด้านสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน คาดการณ์ว่า จะมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 สูงถึง 378,000 ราย ภายในสิ้นปี 2563 โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวัน จะเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ 3,000 รายต่อวันในเดือนธันวาคม