รีเซต

กกร.ลุ้นส่งออกฟื้น ปรับเป้าดีขึ้น -10%ถึง-8% วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นตรงจุด

กกร.ลุ้นส่งออกฟื้น ปรับเป้าดีขึ้น -10%ถึง-8% วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นตรงจุด
มติชน
7 ตุลาคม 2563 ( 12:18 )
89
กกร.ลุ้นส่งออกฟื้น ปรับเป้าดีขึ้น -10%ถึง-8% วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นตรงจุด

กกร.ลุ้นส่งออกฟื้น ปรับเป้าดีขึ้น -10%ถึง-8% วอนรัฐออกมาตรการกระตุ้นตรงจุด

 

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2563 กกร. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยอาจหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0% ขณะที่ กกร. ปรับประมาณการการส่งออกในปี 2563 หดตัวในกรอบ -10.0% ถึง -8.0% ดีขึ้นจากเดิมที่ -12.0% ถึง -10.0% เนื่องจากการส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 3 หดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้เดิม ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -1.0%

 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 พบว่า ฟื้นตัวไปพร้อมกับความสำเร็จในการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับการส่งเสริมจากมาตรการของรัฐ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาสที่ 2 ภายหลังการคลาย lockdown ทั่วโลก ซึ่งสินค้ากลุ่มอาหารและสุขอนามัยที่เป็นที่ต้องการมีการขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังต่ำกว่าปกติอยู่มาก เห็นได้จากจำนวนผู้ว่างงานที่ยังไม่ลดลง

 

โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในเดือนกันยายน กดดันการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร รัสเซีย อินเดีย และหลายแห่งในเอเชีย ซึ่งหากลุกลามไปมากจะกระทบธุรกิจส่งออกของไทย รวมถึงความสามารถในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในระยะต่อไป แม้ว่าจะไม่กระทบกับการเปิดรับแบบเฉพาะกลุ่มที่กำลังจะเริ่มขึ้นก็ตาม ส่วนปัจจัยในประเทศ ได้แก่ การที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในวงกว้างทยอยหมดอายุลง

 

ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าจากผลของดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นในภาวะที่ตลาดกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง โดยกังวลการระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองทั้งฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป นอกจากนี้ ความผันผวนเพิ่มขึ้นจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ สำหรับในช่วงที่เหลือของปีค่าเงินบาทยังมีแรงหนุนแข็งค่าจากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุล

 

อย่างไรก็ตาม หากไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทย หรือสามารถควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดได้ ที่ประชุม กกร. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 จะฟื้นตัวได้ต่อไป แต่ยังคงต้องการการสนับสนุนจากมาตรการของรัฐที่ต่อเนื่องและตรงจุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง