"สุพัฒนพงษ์" เร่งสร้างงานรับเด็กจบใหม่ 4-5 แสนคน ช่วยเอสเอ็มอี ดูแลค่าครองชีพ
“สุพัฒนพงษ์” เร่งสร้างงานรับเด็กจบใหม่ 4-5 แสนคน ช่วยเอสเอ็มอี ดูแลค่าครองชีพ ขีดเส้น 30 วันได้ข้อสรุปเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ”พลังงานร่วมใจ รวมไทยสร้างชาติ” มีบริษัทเอกชนด้านพลังงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สมาคมเอทานอล กว่า 100 ราย เข้าร่วม ที่กระทรวงพลังงาน ว่า นโยบายด้านพลังงานหลังจากนี้จะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะการจ้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน โดยจากการหารือร่วมกับรัฐและเอกชนด้านพลังงานครั้งนี้ได้มอบหมายให้ช่วยกันคิดว่าจะช่วยแก้ไขเศรษฐกิจได้อย่างไร จะวางบทบาทอย่างไรเพื่อสร้างการจดจำในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ 4-5 แสนคน และการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ซึ่งจะได้ข้อสรุป 2 สัปดาห์ ขณะเดียวกันในส่วนของกระทรวงพลังงานจะใช้เครื่องมือผ่านกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยการบริหารงานขณะนี้มีการกลั่นกรองโครงการของปีงบประมาณ 2563 แล้ว ขณะที่ปี 2564 จะปรับแนวทางการใช้เงินที่มุ่งจ้างงานมากขึ้น
ขณะนี้จะเน้นลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพประชาชน โดยจะเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรึงราคาพลังงานต่อไป อาทิ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ที่จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดต่อไป ขณะที่แนวทางการบริหารภาพรวมจะเน้นสานงานเดิม โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานหาข้อสรุปภายใน 30 วัน มีเป้าหมายเปิดรับซื้อภายในปีนี้ แต่ต้องมั่นใจว่ารายได้นั้นจะต้องตกถึงเกษตรกรอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามการเปิดรับซื้อที่เดิมกำหนดไว้ระยะเร่งด่วน(ควิกวิน) 100 เมกะวัตต์นั้นอาจจะเป็น 100-200 เมกะวัตต์ก็ได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมเรื่องเชื้อเพลิงที่ตอบโจทย์สร้างงานและสร้างรายได้ให้ชุมชน