"ทรัมป์" ไม่ห้ามจีนซื้อน้ำมันรัสเซีย ไร้คำขู่ แม้คุย “ปูติน” แบบไร้ข้อตกลง

การประชุมสุดยอดระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย ในรัฐอะแลสกา จบลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ ในการยุติสงครามยูเครน แต่ถึงจะลงเอยเช่นนั้น แต่ “ทรัมป์” ก็ยังปล่อยไฟเขียวให้จีน ซื้อน้ำมันของรัสเซียได้ โดยไร้คำขู่เหมือนอินเดีย

หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ใช้เวลาพูดคุยกันนานเกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ ว่า มีความคืบหน้าในบางประเด็น แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ

อย่างไรก็ดี มีประเด็นเกี่ยวเนื่องที่นักลงทุนจับตา คือการที่ทรัมป์เคยขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และขยายไปยังประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หากไม่มีความคืบหน้าในการยุติสงครามยูเครน ซึ่งทำให้ "จีน" ถูกจับตามขึ้นมาทันที เพราะในสัปดาห์ก่อน ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีกร้อยละ 25 กับสินค้านำเข้าจากอินเดีย โดยให้เหตุผลว่าอินเดียนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีการใช้มาตรการเดียวกันนี้กับจีน ขณะที่จีนและอินเดียต่างเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่จากรัสเซีย

ล่าสุด "ทรัมป์" ตอบคำถามนี้กับผู้สื่อข่าวจาก Fox News เกี่ยวกับพิจารณามาตรการภาษีกับจีนในลักษณะเดียวกันกับอินเดียว่า การหารือกับปูตินทำให้เขาไม่จำเป็นต้องเร่งตัดสินใจทันที เกี่ยวกับเรียกเก็บภาษีตอบโต้ต่อจีนจากกรณีการซื้อน้ำมันของรัสเซีย แต่ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะพิจารณาดำเนินการเรื่องนี้อีกครั้งภายในสองถึงสามสัปดาห์ข้างหน้า  

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กำลังหารือกันเพื่อจัดทำข้อตกลงทางการค้าที่อาจช่วยบรรเทาความตึงเครียดและลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม หากทรัมป์ใช้มาตรการลงโทษอย่างเต็มรูปแบบ จีนอาจกลายเป็นเป้าหมายสำคัญรองจากรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญภาวะชะลอตัว 

 "เซเลนสกี" บินด่วน หารือ "ทรัมป์" ดันโต๊ะเจรจา 3 ฝ่าย

ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน "โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี" ผู้นำยูเครน ประกาศว่าวันนี้ 18 ส.ค. เขาจะบินมาพบผู้นำสหรัฐแบบตัวต่อตัว เพื่อหารือเรื่องการยุติการรุกรานของรัสเซียพร้อมผลักดันการส่วนร่วมของยุโรป ในการร่วมโต๊ะเจรจา 3 ฝ่าย

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนและผู้นำยุโรปได้หารือทางโทรศัพท์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระหว่างที่ทรัมป์เดินทางกลับจากการประชุมกับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเพื่อยุติสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปี

โดยหลังการสนทนา "เซเลนสกี" ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่ายูเครนยังคงพร้อมทำงานอย่างสร้างสรรค์เพื่อบรรลุสันติภาพ พร้อมสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ให้มีการจัดประชุมสุดยอด3 ฝ่ายระหว่างยูเครน–สหรัฐฯ–รัสเซีย และย้ำว่ายุโรปก็ควรมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาด้วย "เซเลนสกี" ยังประกาศว่าเขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) เพื่อพบกับทรัมป์และหารือเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง

ด้านสำนักข่าวซินหัวระบุว่าผู้นำระดับสูงของยุโรปที่ทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือเพื่อรายงานความคืบหน้าจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง "เออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน" ประธานกรรมาธิการยุโรป "มาร์ก รุตเตอ" เลขาธิการนาโต และผู้นำอีกหลายชาติในยุโรป ได้ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้มีการเจรจาเพิ่มเติมโดยมี “เซเลนสกี” เข้าร่วม นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำว่ายูเครนต้องได้รับ "การประกันความปลอดภัยที่แน่วแน่" เพื่อปกป้องอธิปไตยและความสมบูรณ์แห่งอาณาเขต พร้อมแสดงความพร้อมในการทำงานร่วมกับ “ทรัมป์” และ “เซเลนสกี” สู่การประชุมสุดยอดสามฝ่าย

แถลงการณ์ย้ำด้วยว่า ยุโรปจะให้การสนับสนุนยูเครนต่อไป ตราบใดที่การต่อสู้ยังดำเนินอยู่ และยุโรปจะคงกดดันรัสเซียผ่านการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นรวมถึงการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นกับรัสเซียด้วย