ติดโควิดไม่รู้ตัว รับวัคซีนไม่อันตราย สธ.ชี้คนรับแอสตร้าฯ เข็ม 2 ต.ค.64 บูสต์ไฟเซอร์ได้
จากกรณีการโควิด-19 โอมิครอน ที่แพร่กระจายเชื้อได้เร็วแต่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาการน้อย หรือไม่มีอาการ อาการคล้ายหวัด ทำให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่ด้วยชุดตรวจ ATK ที่ตรวจพบผลบวก หลังรับเชื้อไปแล้ว 3-10 วัน ขณะเดียวกัน มีการรณรงค์การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากขึ้น ส่วนหนึ่งพบว่า ติดเชื้อแล้วไม่รู้ตัว จึงไปรับวัคซีน โดยหลังจากนั้นเพิ่งพบว่ามีการติดเชื้อ เกิดความกังวลว่าจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อ และจากวัคซีนจะส่งผลต่อความรุนแรงของโรคในขณะนั้น หรืออันตรายหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 มกราคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร หากเป็นการติดเชื้อและไม่มีอาการ เช่น ไข้สูง อ่อนเพลีย ความดันขึ้น หอบเหนื่อย หรืออาการอื่นๆ ตามการคัดกรองอาการก่อนรับวัคซีน ก็สามารถรับวัคซีนได้ แต่สำหรับผู้ที่มีนัดฉีดวัคซีน แต่ตรวจ ATK แล้วพบว่าติดเชื้อก็ให้โทรสายด่วน 1330 เพื่อเข้าระบบการรักษาจากที่บ้าน(Home Isolation) หรือถ้ามีอาการก็เข้าโรงพยาบาล แล้วหลังจากหายติดเชื้อ 3 เดือน ค่อยมารับวัคซีน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราเจอหลายคนที่ฉีดวัคซีนแล้วต่อมาพบว่าติดเชื้อ แต่ไม่เป็นอะไร สอดคล้องกับคำแนะนำของทั่วโลก ที่ระบุว่า การติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่รู้ตัว ก็ไม่มีผลอะไรที่เป็นนัยยะสำคัญ
นพ.โอภาส กล่าวว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 มีการฉีดเพิ่มขึ้นกว่า 10% ทุกวันนี้ที่ฉีดเยอะที่สุดคือเข็ม 3 เพราะ เข็ม 1 ก็หาคนจะฉีดได้น้อย ส่วนเข็ม 2 ก็ไปฉีดตามกำหนด ทั้งนี้ คำแนะนำของอนุกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ดูข้อมูลรอบด้านประกอบ ระบุว่า ผู้รับวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า(SA) ควรตามด้วย แอสตร้าฯ เพราะทำให้ภูมิคุ้มกันขึ้นดี และเผื่อเข็ม 4 ก็จะฉีดไฟเซอร์ต่อ
“สำหรับผู้รับแอสตร้าฯ มา 2 เข็ม ครบในช่วงเดือน ต.ค.64 คือห่างจากเข็ม 2 มาแล้ว 3 เดือน ขณะนี้ก็เข้ารับเข็มกระตุ้นเป็นไฟเซอร์ได้แล้ว” นพ.โอภาส กล่าว