วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ จากจุดเริ่มต้นถึงปัจจุบัน และการเตรียมรับมือระลอกใหม่
ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำภาคใต้ตอนล่างตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากครั้งใหญ่ในพื้นที่ 10 จังหวัด สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างหนัก โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 31 ราย
จุดเริ่มต้นของวิกฤต
เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เมื่อความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่ 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 664,173 ครัวเรือน
สถานการณ์ปัจจุบัน
ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2567 ยังคงมีน้ำท่วมขังใน 3 จังหวัด ได้แก่
✅นครศรีธรรมราช น้ำท่วมใน 6 อำเภอ ครอบคลุม 39 ตำบล 332 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบ 23,621 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย แม้ระดับน้ำในคลองท่าดีจะเริ่มลดลงแล้ว
✅สงขลา น้ำท่วมใน 3 อำเภอ ครอบคลุม 14 ตำบล 83 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบ 6,111 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 10 ราย ปัจจุบันระดับน้ำในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเริ่มลดลง
✅ปัตตานี น้ำท่วมใน 2 อำเภอ ครอบคลุม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบ 1,260 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย แม้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีจะเริ่มลดลง
การช่วยเหลือและเยียวยา
รัฐบาลได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
✅อนุมัติเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยธนาคารออมสินได้โอนเงินผ่านพร้อมเพย์ให้ผู้ประสบภัยแล้ว 297,844 ครัวเรือน รวมเป็นเงินกว่า 2,700 ล้านบาท
✅กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล เรือท้องแบน และเฮลิคอปเตอร์ KA 32 เพื่อช่วยเหลือประชาชน
✅กระทรวงอุตสาหกรรมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดสงขลา พร้อมทั้งสำรวจความเสียหายของสถานประกอบการ พบโรงงานและวิสาหกิจได้รับผลกระทบรวมมูลค่ากว่า 23 ล้านบาท
ผลกระทบต่อภาคการเกษตรและประมง
ในพื้นที่เกาะยอ จังหวัดสงขลา ผู้เลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยปลากะพงที่เลี้ยงไว้หลุดออกจากกระชังกว่าร้อยละ 80 แม้จะพยายามยกกระชังให้สูงเหนือระดับน้ำแล้วก็ตาม สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรอย่างมาก
การเตรียมรับมือฝนตกหนักระลอกใหม่ กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าจะมีฝนตกหนักอีกครั้งในช่วงวันที่ 12-16 ธันวาคม 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ยะลา และนราธิวาส ทางการจึงได้เตรียมมาตรการรับมือดังนี้:
✅การเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำบางลางที่มีความจุ 82% และระบายน้ำวันละ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร
✅การเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์ ศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ได้เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ 31 หน่วย
✅การจัดเตรียมศูนย์พักพิง:เพื่อรองรับการอพยพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง
ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารและแจ้งเหตุได้ผ่านช่องทางต่างๆ
Facebook: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM
Twitter: @DDPMNews
แอปพลิเคชัน "Thai Disaster Alert"
Line: "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" (@1784DDPM)
สายด่วนนิรภัย 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
วิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะที่การเตรียมรับมือกับฝนตกหนักระลอกใหม่จะเป็นการทดสอบความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
ภาพ ปภ.