อดีตปธน.มุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ ถูกตั้งข้อหารับสินบน

วันนี้ (24 เมษายน) อัยการเขตชอนจูของเกาหลีใต้ตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีมุน แจ-อิน วัย 72 ปี ในคดีรับสินบน ทำให้เขากลายเป็นอดีตผู้นำเกาหลีใต้รายล่าสุดที่ต้องเผชิญคดีความ โดยข้อหาที่อดีตประธานาธิบดีมุนเผชิญ เชื่อมโยงกับการแต่งตั้งลูกเขยของเขา ให้เข้าทำงานที่สายการบินแห่งหนึ่งของไทย
อัยการกล่าวหาว่า คดีนี้เกี่ยวข้องกับการที่นายลี ซัง-จิก อดีตสมาชิกรัฐสภา และผู้ก่อตั้งสายการบินดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs and Startups Agency) ในช่วงปี 2018-2020 โดยอัยการสงสัยว่า การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นการตอบแทนที่ลูกเขยของนายมุน ได้รับตำแหน่งและค่าตอบแทนภายในบริษัทของนายลี
อัยการระบุว่า ลูกเขยของนายมุน ได้รับค่าตอบแทนในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งสิ้นราว 218 ล้านวอน หรือเกือบ 6 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการรับเงินที่ผิดปกติ โดยทั้งนายมุนและนายลี รวมถึงทีมกฎหมายของทั้งสอง ยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว
ด้านยุน กุน-ยอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้ช่วยใกล้ชิดของนายมุน ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และไม่มีมูลความจริง และกล่าวหาว่า อัยกายไม่ได้ทำการสอบสวนอย่างเหมาะสม
มุน แจ-อิน ซึ่งมีพื้นฐานเป็นนักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2017-2022 โดยเขาเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดในรอบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ที่เผชิญกับคดีความระหว่างที่ใกล้จะหมดตำแหน่ง หรือบางคนก็ถูกดำเนินคดีหลังพ้นวาระแล้ว
การตั้งข้อหามุน แจ-อิน เกิดขึ้นในช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมือง โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ยุน ซ็อก-ย็อล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เพิ่งถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเดือนนี้ หลังทำการประกาศกฎอัยการศึกอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอดีตผู้นำสายอนุรักษ์นิยมรายนี้ ที่ปฏิเสธการกระทำความผิด ยังคงอยู่ระหว่างการถูกพิจารณาคดีในข้อหากบฏ - และเตรียมจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ในวันที่ 3 มิถุนายนนี้