ศาลสั่งปิดพินัยกรรมเจ้าชายฟิลิปเป็นความลับนาน 90 ปี ห่วงกระทบพระเกียรติราชวงศ์
ศาลฎีกาแผนกคดีครอบครัวของสหราชอาณาจักร มีคำสั่งให้ปกปิดเนื้อหาในพินัยกรรมของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระไว้เป็นความลับอย่างน้อย 90 ปี เพื่อปกป้อง "พระเกียรติและพระราชฐานะ" ของสมเด็จพระราชินีนาถรวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์
การที่ศาลสั่งปิดเนื้อหาพินัยกรรมของพระราชวงศ์อังกฤษเป็นความลับตลอดไป ถือเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมานานกว่าหนึ่งศตวรรษแล้ว แต่ในคราวนี้นับเป็นครั้งแรกที่ศาลกำหนดระยะเวลาปกปิดเนื้อหาพินัยกรรมไว้ที่ 90 ปี ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว สามารถจะเปิดเผยเนื้อหาของพินัยกรรมเป็นการส่วนตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องได้ แต่จะไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างเด็ดขาด
มีการเผยแพร่คำสั่งศาลในกรณีของเจ้าชายฟิลิปเมื่อวันที่ 17 ก.ย. หลังศาลได้รับคำร้องจากอัยการสูงสุดและทนายความจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระองค์เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเซอร์ แอนดรูว์ แม็กฟาร์เลน ประธานศาลฎีกาแผนกคดีครอบครัวบอกว่า
"คำสั่งศาลนี้มีขึ้น โดยคำนึงถึงพระราชฐานะของพระมหากษัตริย์ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ศาลจึงเห็นสมควรที่จะให้มีการปฏิบัติเป็นพิเศษต่อพินัยกรรมของบรรดาพระราชวงศ์ เพื่อยกระดับการปกป้องแง่มุมที่เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริงในชีวิตของบุคคลเหล่านี้ เพื่อรักษาพระเกียรติของสมเด็จพระราชินีนาถและสมาชิกของพระราชวงศ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์"
เซอร์แม็กฟาร์เลนซึ่งเป็นผู้เก็บรักษาพินัยกรรมของพระราชวงศ์อังกฤษที่ล่วงลับไปแล้วถึงกว่า 30 พระองค์ ชี้แจงว่าไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าฟังการพิจารณาคำร้องกรณีพินัยกรรมของเจ้าชายฟิลิป เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะทำให้เกิดการคาดเดาเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ จนกลายเป็นข่าวเล่าลือที่ปราศจากมูลความจริงขึ้นมาได้ ทั้งที่เนื้อหาของพินัยกรรมนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องต่อผลประโยชน์สาธารณะ และล้วนแต่เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น
สำหรับธรรมเนียมการปกปิดพินัยกรรมของราชวงศ์อังกฤษนั้น เริ่มจากเจ้าชายฟรานซิสแห่งเท็ก (Prince Francis of Teck) พระอนุชาของสมเด็จพระราชินีแมรีในพระเจ้าจอร์จที่ 5 ซึ่งสิ้นพระชนม์ไปเมื่อปี 1910 โดยเจ้าชายฟรานซิสได้ยกมรกตล้ำค่าที่สมเด็จพระราชินีแมรีพระราชทานไว้ ให้เป็นมรดกแก่เคาน์เตสแห่งคิลมอรีย์ หญิงชู้รักนอกสมรส
เมื่อปี 2007 นายโรเบิร์ต แอนดรูว์ บราวน์ ซึ่งอ้างว่าเป็นบุตรนอกสมรสของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้เปิดเผยเนื้อหาพินัยกรรมของควีนมัมและเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตที่ถูกปิดเป็นความลับอยู่ แต่ศาลปฏิเสธไม่รับคำร้องดังกล่าว เนื่องจาก "เป็นการก่อกวนและใช้สิทธิดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่สุจริต"
อย่างไรก็ตาม เซอร์แม็กฟาร์เลนระบุว่าเนื้อหาพินัยกรรมของพระราชวงศ์อังกฤษ สามารถจะเปิดเผยต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวได้ หลังศาลมีคำสั่งให้แจกจ่ายทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมไปแล้ว 90 ปี ซึ่งบุคคลเหล่านี้รวมถึงอัยการสูงสุด บรรณารักษ์ของหอจดหมายเหตุหลวง ทนายความส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ และผู้แทนส่วนพระองค์ของผู้ทำพินัยกรรมที่อาจยังมีชีวิตอยู่
กระบวนการเพื่อเปิดเผยเนื้อหาของพินัยกรรมดังกล่าว จะต้องผ่านการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีครอบครัวเช่นกัน แต่เซอร์แม็กฟาร์เลนบอกว่า พินัยกรรมของพระราชวงศ์บางพระองค์อาจไม่มีการเปิดเผยตลอดไป แม้แต่การเปิดเผยเป็นบางส่วนก็ไม่อาจทำได้
เซอร์แม็กฟาร์เลนมีแผนจะตีพิมพ์รายชื่อพระราชวงศ์เจ้าของพินัยกรรมกว่า 30 ฉบับ ที่เขาเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟพิเศษ แต่จะยังไม่ทำเช่นนั้นหากมีผู้ร้องคัดค้าน และเขาจะรอจนกว่าศาลจะพิจารณาคำร้องคัดค้านนั้นเสร็จสิ้นเสียก่อน
ชื่อของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ จะไม่รวมอยู่ในรายชื่อข้างต้น เนื่องจากมีการเปิดเผยพินัยกรรมของพระองค์ไปแล้วหลังการสิ้นพระชนม์เมื่อปี 1997 โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่นั้นถูกเก็บไว้ในรูปแบบของกองทุน เพื่อรอส่งมอบแก่พระโอรสทั้งสองเมื่อทรงเจริญวัยครบ 25 พรรษา