RPHรายได้ปีหน้าโต10% รุกอัพฐานคนไข้ต่างแดน
#RPH #ทันหุ้น – RPH กางแผนงานปี 2567 วางเป้ารายได้รวมโต 10% จากปีก่อน ติดปีกขยายฐานคนไข้ต่างชาติต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์ความงามและสร้างโรงพยาบาลใหม่ รองรับการขยายตัวของคนไข้ที่เพิ่มขึ้น ยิ้มผลงานปี 2566 โตเกินเป้า 22% หลัง 9 เดือนแรกโตแล้วกว่า 22% ทำออลไทม์ไฮ
นพ.ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน มองว่าแนวโน้มความต้องการดูแลรักษาสุขภาพยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยบริษัทวางแผนที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ในส่วนของโรคเฉพาะทางและโรคที่มีความซับซ้อนทางการรักษาเพิ่มมากขึ้น และศัลยกรรมความงาม
รวมถึงเพิ่มพื้นที่การดูแลรักษาให้เพียงพอต่อความต้องการที่มีการขยายตัว นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายฐานคนไข้กลุ่มต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเซ็นสัญญากับเอเจนซีของประเทศจีนและฮ่องกงไปแล้ว ทำให้คาดว่าในปี 2567 ทางโรงพยาบาลจะได้ให้บริการทางการแพทย์ให้กับคนไข้ต่างชาติมากขึ้น และอยู่ในระหว่างที่เอเจนซีตะวันออกกลางเตรียมส่งคนไข้มาทดสอบการดูแลรักษา
*อัพฐานต่างชาติ
ทำให้คาดว่าสัดส่วนคนไข้ต่างชาติในปี 2567 จะขยับตัวมากขึ้น จากในปัจจุบันที่คิดเป็นสัดส่วนราว 1.72% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือกว่า 98.28% ยังคงเป็นสัดส่วนของคนไข้ในประเทศ ทั้งนี้จากการคาดการณ์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Toruism) ในประเทศไทยเฉลี่ยการเติบโต 5 ปี (2566-2570) อยู่ที่ราว 41.4% ต่อปี หรือมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 88,157 ล้านบาท, 134,443 ล้านบาท, 195,975 ล้านบาท, 217,299 ล้านบาท และ 229,185 ล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนต่อโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลและให้บริการแก่คนไข้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มศูนย์บริการดูแลรักษาโรคเฉพาะทางให้ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น ซึ่งมีแผนขยายการให้บริการทางการแพทย์ประเภทความงาม รวมถึงศูนย์สุขภาพ (Wellness Center) ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบ คาดว่าเปิดให้บริการอย่างเร็วที่สุดในปลายปี 2567 หรือย่างช้าไม่เกินต้นปี 2568
ส่วนความคืบหน้าการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ ขนาด 100 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยเฉพาะส่วนของประกันสังคมและผู้ป่วยใช้สิทธิ์ประกันชีวิต ที่มีวงเงินไม่สูงนักให้ได้เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบและหาผู้รับเหมา คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เป็นต้นไป การลงทุนในครั้งนี้ยังสามารถขยายพื้นที่เตียงได้สูงสุดเป็น 300 เตียง รองัรบการขยายตัวของคนไข้ที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
*ผลงานออลไทม์ไฮ
สำหรับภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ตามการขยายตัวของความต้องการดูแลรักษาสุขภาพ และการขยายตัวของคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ แต่มองว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ อาจจะหย่อนตัวกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งก็เป็นไปตามซีซันของธุรกิจ Health Care ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะมีการเติบโตที่ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 10-20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 1,340.26 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 286.47 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 881.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 147.77 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้สูงถึง 22% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน นับว่าเป็น All Time High ของบริษัท