สหรัฐฯถอนตัว COP30 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ขัดขวางความร่วมมือสู้โลกร้อน

การบริหารของ โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ จะไม่ส่งผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมการประชุมสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ หรือ COP30 ที่ประเทศบราซิล ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อการดำเนินมาตรการแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มักส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมประชุม COP ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเกือบทุกปี แม้ในช่วงที่ “จอร์จ ดับเบิลยู บุช” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือในสมัยทรัมป์วาระแรก ซึ่งแม้จะมีความสนใจในการแก้ปัญหาโลกร้อนน้อย แต่ก็ยังมีการเข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ดี การประชุม COP30 ที่กรุงเบเลง ประเทศบราซิล ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 จะเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ไม่ส่งผู้แทนอย่างเป็นทางการอย่างเต็มรูปแบบ ทรัมป์เคยเรียกวิกฤตสภาพภูมิอากาศว่าเป็น “เรื่องหลอกลวง” และประกาศว่าประเทศสหรัฐฯ จะถอนตัวจาก ข้อตกลงปารีส ซึ่งกำหนดให้ประเทศต่าง ๆ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดความรุนแรงของโลกร้อน
โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า นโยบายด้านพลังงานที่เรียกว่า “Green New Scam” หรือโครงการพลังงานสีเขียวของโจ ไบเดน จะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของสหรัฐฯ หากไม่ถูกหยุดลง การบริหารของทรัมป์เน้นการใช้พลังงานจากทรัพยากรของประเทศเอง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและลดต้นทุนให้กับครัวเรือนและธุรกิจในสหรัฐฯ
ในปี พ.ศ. 2568 กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ปิดสำนักงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับประเด็นสภาพภูมิอากาศ และตำแหน่งผู้แทนพิเศษด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเคยดำเนินการในสมัยไบเดน ก็ถูกยกเลิกไปด้วย และแทนที่จะเข้าร่วมการเจรจาหลายฝ่าย สหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์มุ่งเจรจาโดยตรงกับประเทศใดประเทศหนึ่ง ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทำข้อตกลงกับ สหภาพยุโรป เพื่อซื้อก๊าซและน้ำมันมูลค่า 750 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 27.7 ล้านล้านบาท) รวมถึงทำข้อตกลงกับประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เกี่ยวกับโครงการพลังงานนิวเคลียร์ แร่ธาตุหายาก และเชื้อเพลิงฟอสซิล
ทรัมป์ยังเรียกร้องให้ประเทศอื่นลดการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยกล่าวว่าสหรัฐฯ และประเทศอื่นต้องพึ่งพาพลังงานแบบดั้งเดิม และการไม่เข้าร่วมประชุม COP30 ของสหรัฐฯ กลายเป็นความท้าทายเพิ่มเติมต่อการประชุมที่มีปัญหาหลายด้าน ประเทศต่าง ๆ จะต้องยื่นแผนปรับปรุงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ทำ ขณะที่ตัวแทนหลายคนกำลังประสบปัญหาที่พักในกรุงเบเลง ซึ่งเป็นประตูสู่แม่น้ำแอมะซอน
อดีตผู้แทนเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ ในสมัยบารัก โอบามา ระบุว่าการไม่เข้าร่วมของสหรัฐฯ ในครั้งนี้นั้นไม่น่าแปลกใจ เพราะรัฐบาลทรัมป์ไม่สนใจข้อตกลงปารีส และไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มประโยชน์ใด ๆ ให้กับการเจรจา
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนระดับรัฐ ผู้ว่าการรัฐ สมาชิกสภาคองเกรส นายกเทศมนตรี และนักกิจกรรมชาวอเมริกันยังเข้าร่วม COP30 เพื่อแสดงให้เห็นว่าระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าด้านสภาพภูมิอากาศ แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง
อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศท่านหนึ่งกล่าวว่า หากสหรัฐฯ ไม่เข้าร่วม การประชุมอาจบรรลุข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศได้ง่ายขึ้น เพราะหากมีสหรัฐฯ เข้าร่วมในฐานะผู้ก่อกวน ก็อาจทำให้การเจรจาเสียหายได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
