BLCลุ้นโค้งท้ายทำนิวไฮ งบรัฐหนุน-ดีมานด์ยาโต
#BLC #ทันหุ้น - BLC เก็งไตรมาส 4/2567 ผลงานนิวไฮ รับอานิสงส์งบภาครัฐ หนุน-ดีมานด์ผลิตภัณฑ์ยาโตต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำปี 2569 รายได้แตะ 2 พันล้านบาท พอร์ตลูกค้าเพิ่มขึ้น-โปรดักต์ใหม่ดัน ล่าสุดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ “BKD VIVA” สยายปีกช่องทางออนไลน์ อัพฐานโกยเงินเพิ่ม
ภก.สมชัย พิสพหุธาร ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2567 น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากไตรมาส 3/2567 และน่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ (นิวไฮ) เนื่องจากได้ผลบวกจากการเบิกจ่ายงบของภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ความต้องการ (ดีมานด์) ผลิตภัณฑ์ยาต่างๆ บริษัทเติบโตยิ่งขึ้น
ขณะที่ในปี 2567 บริษัทยังคงประมาณการรายได้1.6 พันล้านบาท ผลจากธุรกิจมีการสร้างBrand Awareness เพื่อสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคอย่างครอบคลุม ประกอบกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้กว้างขึ้น และมีการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์Kachalis เพิ่มเติมและอื่นๆ เข้าเสริม ซึ่งส่งผลให้ฐานลูกค้าของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง
ต่อยอดอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ ทาง BLC ยังมีการเดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ อาทิ เปิดช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ผ่าน BKD VIVA ในช่องทาง Shopee และ Tiktok shop และออฟไลน์ผ่านการขยายฐานลูกค้าโรงพยาบาลและร้านขายยา เพื่อขยายช่องทางสร้างรายได้ให้กว้างขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจให้เป็นไปตามที่วางไว้ด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ “เวทีมิสแกรนด์ กาฬสินธุ์2025” ซึ่งเป็นเวทีที่ทรงคุณค่าและได้รับความสนใจจากคนไทยทั่วประเทศ และระดับโลก
โดยการสนับสนุนดังกล่าวนับเป็นการสอดคล้องกับกลยุทธ์ของBLC ในการสร้างการรับรู้แบรนด์(Brand Awareness)
โดยนำผลิตภัณฑ์“Clena” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนาน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร“DeeDay” มาเป็นตัวชูโรงในการสนับสนุนครั้งนี้ โดยเชื่อมั่นว่าเวทีมิสแกรนด์ กาฬสินธุ์ 2025 จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยให้ BLC เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้นเพิ่มเติม
ปี 69 รายได้ตามเป้า
ภก.สมชัย กล่าวว่า ในระยะยาวทาง BLC วางเป้าหมายรายได้เติบโตถึง 2 พันล้านบาท ภายในปี2569 จากแผนดำเนินงานที่มุ่งสร้างรายได้จากการผลิตยาแผนปัจจุบันประเภทยาสามัญใหม่(New Generic Drugs) ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นขั้นต่ำ70% ใน 3-5 ปีแรกของการจำหน่าย จากวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์(Product Life Cycle) ตั้งแต่ประมาณ4-5 ปี ไปจนถึงมากกว่า10 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทยา สภาพตลาดและการแข่งขัน การทดแทนของยาชนิดใหม่รวมถึงเทคโนโลยีการรักษาใหม่ๆ ดังนั้น บริษัทจึงวางแผนการพัฒนาและจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายการวางจำหน่ายไม่น้อยกว่า 2 รายการต่อปี ที่ส่งผลดีต่ออัตราการเติบโตของรายได้และอัตราการทำกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนโครงการโรงงานผลิตยาแห่งใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาและการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการเติบโตของBLC ให้สูงขึ้น ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้นั้นบริษัทได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนสำหรับการนำเข้าเครื่องจักร และก่อสร้างอาคารโรงงานครบหมดแล้ว อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติแบบก่อสร้างโรงงาน ซึ่งอาคารผลิตยาแผนปัจจุบันหลังใหม่จะใช้เทคโนโลยีทางด้านการผลิตที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต
รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทในระยะยาว รวมทั้งการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(Solar Roof) เพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งหากแผนงานต่างๆ สำเร็จลุล่วงได้ตามที่วางไว้ จะส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น193% และคาดโรงงานดังกล่าวจะสามารถดำเนินการก่อสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการได้ภายในปี2569 ตลอดจนยังช่วยสนับสนุนการเติบอย่างยั่งยืนในอนาคต