ทรัมป์ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 Bomber ใกล้เวเนซุเอลา หลังอนุมัติ CIA ปฏิบัติการลับภาคพื้น

โฆษกของกองบัญชาการ Global Strike Command ของกองทัพสหรัฐฯ เปิดเผยว่าได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 จำนวน 3 ลำ บินปฏิบัติภารกิจใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลาในสัปดาห์นี้ ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยข้อมูลการติดตามเที่ยวบินจากเว็บไซต์ Flightradar24 ยังแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินเหล่านี้บินวนบริเวณน่านฟ้าเหนือทะเลแคริบเบียนซึ่งอยู่ห่างจากเวเนซุเอลาราว 240 กิโลเมตร ซึ่งตามข้อมูลของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เครื่องบิน B-52 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบบินระยะไกลที่สามารถบรรทุกอาวุธทั้งแบบทั่วไปหรืออาวุธนิวเคลียร์ได้ และเคยถูกใช้ในการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถานอย่างกว้างขวาง
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากทรัมป์สั่งให้นำเรือรบ 8 ลำ ที่รวมถึงเรือดำน้ำนิวเคลียร์ และเครื่องบินขับไล่เข้าใกล้ภูมิภาคแถบแคริบเบียน อีกทั้ง ตามรายงานของสำนักข่าว CBS News ที่ระบุว่ามีการเพิ่มกำลังพลจากกองทัพสหรัฐฯ มากกว่า 10,000 นาย ประจำการอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียน ทั้งบนเรือและในบริเวณเกาะของเปอร์โตริโกด้วย นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังเคยเปิดการโจมตีทางอากาศใส่เรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นของแก๊งลักลอบขนยาเสพติดอย่างน้อย5 ลำ ใกล้เวเนซุเอลาด้วย ซึ่งทรัมป์เพิ่งออกมายอมรับว่าเขายังได้อนุมัติปฏิบัติการลับของ CIA เพื่อเข้าโจมตีและกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในภาคพื้นดินของเวเนซุเอลาด้วย
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัฐบาลมาดูโรทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่าประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ร่วมมือกับแก๊งค้ายาที่นำส่งยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ และมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมต่าง ๆ อาทิ กลุ่ม Tren de Aragua โดยมาดูโรถูกตั้งข้อหา “ก่อการร้ายค้ายาเสพติด” ในศาลแมนฮัตตันเมื่อ 5 ปีก่อน และรัฐบาลทรัมป์ได้เพิ่มค่าหัวของมาดูโรที่จะนำไปสู่การจับกุมเป็น 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ แม้ว่ามาดูโรจะปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายา และออกมาตอบโต้รัฐบาลทรัมป์ว่าการโจมตีเรือที่อ้างว่าขนยาเสพติดเป็นแผนล้มล้างรัฐบาลของเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ เหตุโจมตีเรือที่เกิดขึ้น สร้างแรงต่อต้านภายในสหรัฐฯ โดยทั้งสมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันบางส่วนเห็นว่าทรัมป์จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากสภาคองเกรสก่อนดำเนินการและยังไม่แสดงหลักฐานชัดเจนว่าเรือเหล่านั้นบรรทุกยาเสพติดจริง ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากสภาคองเกรส โดยให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ อยู่ในสถานะความขัดแย้งทางอาวุธที่ไม่ใช่ระหว่างประเทศกับขบวนการค้ายา ซึ่งรัฐบาลระบุว่าเป็นผู้ต่อสู้ที่ผิดกฎหมายตามเอกสารที่แจ้งต่อสมาชิกสภาคองเกรส
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
