รีเซต

คืบหน้าเครื่องบินจีนตก เริ่มพบชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิต หลังพบ 1 ใน 2 กล่องดำ

คืบหน้าเครื่องบินจีนตก เริ่มพบชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิต หลังพบ 1 ใน 2 กล่องดำ
TNN ช่อง16
24 มีนาคม 2565 ( 15:11 )
188
คืบหน้าเครื่องบินจีนตก เริ่มพบชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิต หลังพบ 1 ใน 2 กล่องดำ

สำนักงานการบินพลเรือนของจีน หรือ CAAC แถลงเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) ทีมค้นหาเครื่องบินตก พบชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิตหลายชิ้น และพบเศษซากชิ้นส่วนเครื่องบินเพิ่มขึ้น หลังเพิ่งพบ 1 ใน 2 กล่องดำของเครื่องบินเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) 3 วันหลังจากเครื่องบินของสายการบิน “ไชนา อีสเทิร์น ของจีน” ตกเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 132 ชีวิต โดยตกลงบนเทือกเขาสูง ในอำเภอเถิง เมืองอู๋โจว มณฑลกว่างซี หรือเขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ทางใต้ของจีน

นอกจากนี้ CAAC ยืนยันแล้วว่า ไม่มีผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้


CAAC ระบุต่อไปว่า กล่องดำที่เพิ่งพบเมื่อวานนี้นั้น เป็นกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน ได้ส่งไปวิเคราะห์ที่กรุงปักกิ่งแล้ว โดยสภาพของกล่องดำดังกล่าว เสียหายหนักบริเวณภายนอก ส่วนหน่วยเก็บข้อมูลที่อยู่ภายในเสียหายบ้าง แต่ยังถือว่าอยู่ในสภาพที่ไม่บุบสลาย

ด้าน จูเทา หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยด้านการบินของ CAAC ระบุว่า การถอดรหัสกล่องดำที่พบ ต้องใช้เวลา และถ้าหากหน่วยเก็บข้อมูลภายในกล่องเสียหาย ก็จะยิ่งใช้เวลานานขึ้นในการถอดรหัสกล่องดำ หลังจากถอดรหัสสำเร็จแล้ว จะได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก ที่ยังเป็นปริศนาอยู่

จูเทาระบุว่า ทีมค้นหาจะใช้ความพยายามทั้งมวล เร่งค้นหากล่องดำที่เหลืออีก 1 กล่องให้ได้ ซึ่งบันทึกข้อมูลการบิน เช่น ความเร็ว ความสูง และทิศทางของเครื่องบิน 


ด้าน China Daily รายงานความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหาว่า จนถึงเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ทีมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยของจีน ได้ค้นหาพื้นที่จุดเครื่องบินตกบนเขาสูง ไปได้แล้วประมาณ 46,000 ตารางเมตร

แต่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบากมาก นอกเหนือจากอุปสรรคทางธรรมชาติ คือภูมิประเทศที่เป็นเขาสูงอันตราย และเป็นป่ารกชัฎแล้ว ความยากลำบากยังเพิ่มมากขึ้นจากฝนที่ตกลงมาเป็นระยะ จนทำให้เกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณจุดที่เครื่องบินตกและทีมค้นหากำลังปฏิบัติงานอยู่ แต่ล่าสุด ทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของจีนได้เดินทางเข้าไปถึงพื้นที่ค้นหาหลัก เพื่อสูบน้ำออกจากแอ่งน้ำที่เกิดขึ้นเนื่องจากฝนตกหนักแล้ว.



ภาพจาก Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง