'แท็กซี่-หาบเร่' ให้กำลังใจ 'รัฐมนตรีสุชาติ' สู้ศึกซักฟอก ย้ำจริงใจแก้ปัญหาประชาชน

ข่าววันนี้ 17 สิงหาคม นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้ายยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ว่า ในฐานะประชาชนคนหนึ่งคงไม่สามารถไปก้าวล่วงการทำหน้าที่ตรวจสอบของสภาได้ แต่ในฐานะของผู้ประกอบการแท็กซี่ อยู่กับอาชีพนี้มากว่า 40 ปี ทั้งขับแท็กซี่ ทั้งเป็นผู้บริหาร สัมผัสกับหน่วยงานราชการอย่างกระทรวงแรงงาน ตั้งแต่ยังสังกัดกับกระทรวงมหาดไทย มาจนถึงปัจจุบัน ถือว่ายุคนี้เป็นยุคที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้ผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่มากที่สุด

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่การเปิดโอกาสให้คนขับแท็กซี่สามารถลงทะเบียนเข้าเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ถือเป็นหลักประกันของอาชีพว่าจะได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม แม้ในยามแก่ตัวไปก็จะมีเงินสะสมส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมาสาเหตุที่คนขับแท็กซี่ไม่ได้เข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เนื่องจากข้อกำหนดที่ระบุว่า ต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 400 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ รวมทั้งการคุ้มครองก็มีไม่กี่ประเภท จนมาถึงยุคนายสุชาติ เมื่อรับฟังปัญหาของคนขับแท็กซี่ ก็มีแนวคิดปรับเปลี่ยนข้อกำหนดดังกล่าว เป็นการจ่ายเงินสมทบที่น้อยลง และได้รับความคุ้มครองมากยิ่งขึ้น ซึ่งแม้ตอนนี้จะยังไม่บรรลุผล แต่เราก็เห็นสัญญาณที่ดีในการปรับเปลี่ยน สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจปัญหาของพี่น้องคนขับแท็กซี่และผู้ประกอบอาชีพอิสระอื่นๆ

“เป็นบทบาทครั้งแรกของกระทรวงแรงงานเลยก็ว่าได้ ที่รับฟังปัญหาของคนขับแท็กซี่ทั้งหมด และไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ แต่พยายามแก้ปัญหาให้ เราสัมผัสถึงความจริงใจได้ และไม่ใช่แค่เรื่องม.40 แต่ในภาวะโควิด ที่ต้องบอกว่าผู้ประกอบการแท็กซี่หนักจริงๆ ไหนจะค่ารถ ค่างวด รายได้ที่ลดลง บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย ก็มีกระทรวงแรงงานที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ อย่างกรณีช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างถุงยังชีพ ที่กระทรวงแรงงานได้รับบริจาคมา ก็นำมาจัดสรรให้พี่น้องแท็กซี่ได้ต่อลมหายใจ แม้จะไม่มากนัก แต่ก็น้ำใจที่ให้แก่กัน นอกจากนี้หากเรื่องมาตรา 40 ผลักดันแก้ระเบียบได้จริง จะทำให้คนแท็กซี่กว่าแสนคนในกทม.ได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว”นายวิฑูรย์ กล่าวและว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความขอบคุณที่นายสุชาติไม่ทิ้งพี่น้องแท็กซี่ ในวันที่ 18 สิงหาคม เวลา 08.00 น.

น.ส.ญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าได้ริเริ่มรณรงค์แคมเปญ Save รัฐมนตรีสุชาติ เพราะเห็นว่าเป็นคนทำงานจริงจัง อย่างช่วงที่ผ่านมาที่ทุกคนประสบปัญหาโควิด ผู้ประกอบกิจการหาบเร่แผงลอย ก็เดือดร้อนเช่นกัน และได้เข้าพบรัฐมนตรี พร้อมยื่นข้อเสนอว่าเราไม่ต้องการสิ่งของใดๆ แต่ต้องการงาน ตอนนั้นเป็นช่วงที่ปิดแคมป์คนงาน นายสุชาติเองเลยให้ชมรมหาบเร่แผงลอย รับออเดอร์จากสำนักงานจัดหางานพื้นที่ ที่ต้องจัดหาข้าวกล่องไปให้กับแคมป์คนงาน เท่ากับว่าได้ประโยชน์ 2 ต่อ แคมป์คนงานมีอาหาร พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ ก็มีงาน มีรายได้ แต่ก็ต้องควบคุมมาตรฐานให้เหมาะสม และยืนยันว่าไม่มีเรื่องของการหักค่าหัวคิว ทุกคนได้เงินทุกอย่างวินวิน

น.ส.ญาดา กล่าวอีกว่า หลังจากได้เข้าไปคุยกับกระทรวงแรงงาน ได้รับการแนะนำให้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 หรืออาชีพอิสระ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เอาจริงๆว่าไม่ว่าจะเป็นยุครัฐบาลไหน ก็ไม่เคยดูแลคนตัวเล็กตัวน้อยเช่นนี้ เมื่อรัฐมนตรีมีความจริงใจในการทำงาน ในการแก้ปัญหาให้ประชาชน เมื่อมีปัญหา การอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องแรงงาน ก็ต้องออกมาสนับสนุนชี้แจง ไม่เช่นนั้นคนทำงานก็หมดกำลังใจ อย่างไรก็ตามไม่ได้ก้าวล่วงการทำหน้าที่ตรวจสอบของสภา เพียงแต่อธิบายให้เห็นว่ารัฐมนตรีเป็นคนทำงานจริง มีความจริงใจ และต้องให้กำลังใจกัน