จอดป้ายประชาชื่น : ลงทุนหุ้นไทยปี’65

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 40 วันเท่านั้น จะเข้าสู่ปีใหม่ ปี 2565 คาดหวังว่าการระบาดโควิด-19 จะคลายตัวและจบลงได้ กลายเป็นเพียงโรคไข้หวัดประจำท้องถิ่นเท่านั้น เหมือนกับที่ผ่านมาในวิกฤตโรคระบาดครั้งก่อนๆ เมื่อเริ่มมีความหวังว่าไวรัสจะจบลง สิ่งที่หวังต่อไปก็คือ ทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น เงินในกระเป๋ามีเพิ่มขึ้น

เมื่อคนเริ่มลืมตาอ้าปากได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การหาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะการเตรียมตัวเจอวิกฤตครั้งต่อๆ ไป เพื่อให้มั่นใจว่า เราสามารถก้าวข้ามไปได้แบบไม่สะบักสะบอมมากนัก

การสะสมเม็ดเงินในมือและการออม จึงถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด หนึ่งในตลาดการลงทุนที่เริ่มได้รับความนิยมขณะนี้คือ การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย ที่ยังมีอนาคตและสามารถเติบโตได้ต่อในปี 2565

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ความสามารถในการสร้างรายได้ และอัตราการทำกำไรยังสามารถเติบโตได้ดีและราคาหุ้น บจ.หลายตัวตอนนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นไม่มาก ราคาถูกอยู่ เปรียบเทียบกับการหารายได้และกำไรในอนาคต ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด ให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยสูงสุดในระดับ 1,750 จุดส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้ไว้ในระดับ 1,850 จุด ซึ่ง ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ระดับ 1,650 จุด จึงถือเป็นช่องว่างแห่งความหวังในการปรับระดับขึ้น

แต่เนื่องจากภาพปี 2565 ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งภาวะเงินเฟ้อ หนี้ทั่วโลกที่สูงขึ้น รวมถึงการปรับอัตราดอกเบี้ย การลงทุนจึงต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างชัดเจน ก่อนจะยอมวางเม็ดเงินลงทุนไป และต้องบริหารสัดส่วนในการลงทุนด้วย เพราะต้องไม่ลืมว่าจะสินทรัพย์เสี่ยง หรือสินทรัพย์ปลอดภัย การระบาดโควิด-19 เข้ามาทำให้เห็นแล้วว่า ทุกสินทรัพย์มีความเสี่ยงแตกต่างกันไป

หัวใจของการลงทุนจึงอยู่ที่การทำความเข้าใจและความรู้อย่างแท้จริง