วุฒิสภาสหรัฐฯ จวก CEO โซเชียลดัง “มือเปื้อนเลือด” หลังล้มเหลวในการคุ้มครองเด็ก

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโซเชียลมีเดียชื่อดัง ทั้ง Meta, X, TikTok, Snap และ Discord ถูกวุฒิสภาสหรัฐฯ ไต่สวนในประเด็นเกี่ยวกับความพยายามของบรรดาสื่อโซเชียลมีเดีย ที่จะต่อสู้กับการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็กบนโลกออนไลน์ 

โดยเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ดิค เดอร์บิน (Dick Durbin) สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้อ้างสถิติจากศูนย์เพื่อเด็กหายและถูกฉวยผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นถึงกรณีการ "ขู่กรรโชกทางเพศ" หรือการที่ผู้เยาว์ถูกหลอกล่อให้ส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอลับ และต้องจ่ายเงินเพื่อแลกกับการที่จะไม่ถูกเผยแพร่ภาพเหล่านั้น ซึ่งพบว่ามีสถิติพุ่งสูงขึ้นมากในปีที่แล้ว

ในระหว่างการพิจารณาคดี คณะกรรมการยังได้เปิดวิดีโอที่เด็ก ๆ ออกมาพูดถึงการตกเป็นเหยื่อบนแพลตฟอร์มโซเชียลทีเดีย ท่ามกลางผู้ปกครองหลายสิบคนที่ต่างพากันชูรูปของลูกหลานตนเอง ที่ตกเป็นเหยื่อขึ้นมา ท่ามกลางการไต่สวนของบรรดาซีอีโอ จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ 

ทั้งนี้ เมตา (Meta) ภายใต้การนำของซีอีโอ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ถูกกดดันเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะมาจากการที่บริษัท มีผลิตภัณฑ์โซเชียลมีเดียในมือถึง 2 ตัวด้วยกัน นั่นคือ เฟซบุ๊ก และ อินสตาแกรม โดยวุฒิสมาชิก ลินด์เซย์ เกรแฮม (Lindsey Graham) ได้กล่าวว่าซักเกอร์เบิร์กว่าเขานั้น “มือเปื้อนเลือด” จากการที่แพลตฟอร์มของเขาทำให้มีเด็กเสียชีวิต

ซึ่งซักเกอร์เบิร์กเอง ก็ได้ลุกขึ้นกล่าวขอโทษต่อครอบครัวของเด็กที่เป็นเหยื่อจากการใช้งานโซเชียลมีเดีย และกล่าวว่าจะพยายามต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าคำกล่าวขอโทษของเขานั้น เพียงพอต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นหรือไม่?

นอกจากซักเกอร์เบิร์กแล้วในการไต่สวนครั้งนี้ ยังเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของ โจว ซื่อ ชิว (Shou Zi Chew)  ซีอีโอของ TikTok ต่อหน้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมจากจีนแห่งนี้ ถูกซักถามถึงประเด็นที่ชี้ให้เห็นว่า แอปพลิเคชันนี้ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของเด็ก

ส่วนบรรดาซีอีโอของบริษัทโซเชียลมีเดียจากบริษัทอื่น ๆ ที่เข้าร่วมได้แก่  เจสัน ซีตรอน ซีอีโอ Discord, อีแวน สปีเกล ซีอีโอ Snap และ ลินดา ยัคคาริโน ซีอีโอ Xโดยให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐที่อาคารรัฐสภา ณ กรุงวอชิงตัน ซึ่งนี่นับเป็นความพยายามครั้งล่าสุดของฝ่ายนิติบัญญัติในการจัดการกับข้อกังวลของผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อให้มั่นใจว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเหล่านี้ จะไม่เป็นอันตรายต่อเยาวชน

ข้อมูลจาก reutersconnect, reuters, edition, cnbc