เสนอรัฐบาลกระตุ้น Made In Thailand เชื่อมั่นอุตฯ พุ่งรับรัฐบาลใหม่

ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ก.ย.68 ปรับขึ้นครั้งแรก รอบ 7 เดือน สะท้อนเชื่อมั่นรัฐบาลใหม่
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ระดับ 87.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 86.4 ในเดือนสิงหาคม 2568 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีฯ เป็นผลมาจากหลายปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน และเอื้อต่อการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยังสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกขึ้น ภายหลังจากกระทรวงการคลัง ได้ปรับลดเงื่อนไขให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สามารถค้ำประกันสินเชื่อให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ได้ ส่งผลให้สภาพคล่องของผู้ประกอบการดีขึ้นอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร และอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดมาเลเซีย, เวียดนาม และไต้หวัน ขณะที่ยอดขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากงาน "BIG Motor Sale 2025" โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีแนวโน้มขยายตัว โดยช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม 2568 การลงทุนจากต่างชาติ เพิ่มขึ้นถึง 125% (YoY) คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2.25 แสนล้านบาท โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลใหม่ของนักลงทุนต่างชาติ รวม 197 ราย เพิ่มขึ้น 21% (YoY) คิดเป็นมูลค่า 7.47 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ในเดือนกันยายน 2568 นี้ ยังมีปัจจัยลบหลายประการ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออก และลดทอนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในตลาดโลก ขณะเดียวกัน ผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา และด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ระดับ 91.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 88.9 ในเดือนสิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง พลัส
สภาอุตสาหกรรมเสนอภาครัฐกระตุ้นส่งเสริม "Made In Thailand"
สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐจากทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ 3 ข้อที่สำคัญประกอบไปด้วย
1. เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการใช้สินค้า Made in Thailand ผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยกำหนดตัวชี้วัด (KPI) ให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อสินค้า Made in Thailand ไม่น้อยกว่า 15%
2. เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการลดต้นทุนด้านพลังงาน และไฟฟ้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ
3. เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) โดยการให้ส่วนลดกับค่าธรรมเนียมการใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
