ปธน.เม็กซิโกชี้ 'ผู้อพยพ' ดับคารถพ่วงในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็น 'ชาวเม็กซิกัน'
เม็กซิโก ซิตี, 29 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (28 มิ.ย.) อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก เผยว่าผู้อพยพ 50 ราย ซึ่งเสียชีวิตภายในรถบรรทุกที่เป็นรถพ่วงคันหนึ่ง ในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นชาวเม็กซิกัน และเรียกขานเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ"
สหรัฐฯ รายงานพบผู้อพยพเสียชีวิตในรถบรรทุกพ่วงที่ถูกทิ้งไว้กลางอากาศร้อนจัดในเมืองดังกล่าว เมื่อวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ที่ผ่านมา โดยโลเปซ โอบราดอร์ ระบุว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตแบ่งเป็นชาวเม็กซิกัน 22 ราย ชาวกัวเตมาลา 7 ราย ชาวฮอนดูรัส 2 ราย แลยังไม่สามารถระบุตัวตนได้อีก 19 รายโลเปซ โอบราดอร์อ้างอิงโครงการลดความยากจนเผยว่า นี่เป็นหลักฐานอันน่าเจ็บปวดที่ย้ำเตือนว่าเราต้องยืนหยัดช่วยเหลือประชาชน พวกเขาจะได้ไม่ต้องออกจากเมืองไปแสวงหาชีวิตที่อีกฟากหนึ่งของชายแดนนอกจากนั้นโลเปซ โอบราดอร์กล่าวว่าเขาจะยกให้หัวข้อการอพยพเป็น "ประเด็นสำคัญ" ขณะพบปะโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมเสริมว่าทางการเม็กซิโกจะดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ข้างต้นทั้งนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญระบุว่าจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มสูงช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นผลจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)