SCMเจาะกลยุทธ์ชูธงแกร่ง เพิ่มช่องทางตลาดโกยเงิน
#SCM #ทันหุ้น – SCM กางแผน 3 ปี (2566 -2568) วางเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% เดินหน้าขยายฐานสมาชิกแตะ 350,000 คน จากปัจจุบัน 170,000 คน เตรียมตั้งตัวแทนจำหน่ายในฟิลิปปินส์ช่วงต้นปี 2567 ขยายการเติบโต และมองหาโอกาสขยายสู่ตลาดตะวันออกกลาง
นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รูปแบบลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-Level Marketing หรือ MLM) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตปี 2566-2568 เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกอยู่ที่ 170,000 คน ซึ่งภายในสิ้นปี 2566 บริษัทคาดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 250,000 คน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ามีฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 คน แบ่งเป็น สมาชิกคนไทย 240,000 คน และสมาชิกต่างประเทศ 110,000 คน
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประเทศใน แถบเอเชีย ฟิลิปปินส์ และประเทศซาอุดีอาระเบีย ที่เตรียมจะตั้งตัวแทนจำหน่าย คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการเติบโตด้วยการร่วมทุนทางธุรกิจในรูปแบบต่างๆ
*ผลงานปี 2566 โต 15%
สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้จะทำได้จะเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,180 บาท ซึ่งหลังจากไตรมาสที่ 4/2566ไปจนถึงปี 2567 บริษัทยังเน้นการขยายตลาดสินค้าสำหรับการเกษตร เนื่องจากเห็นว่ามีอนาคตการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งตลาดปุ๋ยคาดว่าจะเติบโต 2.4% ระหว่างปี 2565 ถึง 2568 สร้างโอกาสมากมายให้กับ SCMปัจจุบันมาร์เก็ตแชร์ของบริษัทยังน้อย ซึ่งมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต
ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรแบรนด์ Growing More ตัวช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร และเพิ่มผลผลิตที่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรรวม 5 รายการ Transform Plus สูตร 1 ฝาสีเขียว, สูตร 2 ฝาสีทอง และ Transform Soil ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน รวมถึงปุ๋ยธาตุอาหารหลักพืช ทรานส์ฟอร์ม เอ็น พี เค (Transform N-P-K) ชนิดน้ำ สูตร 20-6-6 สูตรที่ 1 และ สูตร 6-6-20 สูตรที่ 2
*ชูกลยุทธ์ขยายธุรกิจ
บริษัทเตรียมรณรงค์โปรเจ็กต์ SCM the SECOND WAVE โดยเริ่มตั้งแต่ เป้าหมายที่ 1.การขยายเครือข่าย ( NETWORK EXPANSION) เพิ่มสมาชิกใหม่ สปอนเซอร์เปิดตัว “TOP TEAM SPONSOR” เพิ่มจำนวน สมาชิกใหม่ลุ้นรับรางวัล 2. การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะมีกลุ่มที่ปรับราคาใหม่ให้เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ในตลาด รวมถึงสินค้ากลุ่มที่ออกใหม่ ได้แก่ กลุ่มสินค้าทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้า, สินค้าที่ช่วยให้นอนหลับ เป็นต้น
3. การขยายตลาดสู่ประเทศใหม่ๆ โดยสาขาในฟิลิปปินส์ ได้เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4/2566 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตมากขึ้นในอนาคต
4. ในช่วงไตรมาสที่ 4/2566 บริษัทเตรียมการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน (FINANCIAL MANAGEMENT SHARE REPURCHASE) ไม่เกิน 8.8 ล้านหุ้น งบลงทุน 30 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเสร็จในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567
วางเครือข่ายมั่นคง
ทั้งนี้สำหรับแผนธุรกิจในระยะยาว บริษัทมีความตั้งใจที่จะดําเนินธุรกิจแบบเครือข่ายที่มั่นคงและมีมาตรฐานสูง ที่สามารถส่งมอบความสําเร็จอย่างยั่งยืนให้แก่นักธุรกิจได้ โดยให้บริการ จัดจําหน่ายกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพระดับดี เยี่ยมและมาตรฐานสูงจากทั่วทุกมุมโลกด้วยแผนธุรกิจแบบไซเคิลแมทชิ่ง ซึ่งเป็นแผนการจ่ายผลตอบแทนที่เป็นนวัตกรรมแห่งยุคที่ส่งผลให้นักธุรกิจ ของบริษัทสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนี้บริษัทมีความตั้งใจที่มุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คน เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสําเร็จ บรรลุเป้าหมาย ทั้งทางด้านการเงิน การมีสุขภาพที่ดีและมีความสุข โดยผ่านกระบวนการของการเรียนรู้ลงมือทํา
อนึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 20.2 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 5.4 ล้านบาท หรือลดลง 21.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25.5 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2565 พบว่ากำไรปรับตัวลดลง 23.4 ล้านบาท หรือลดลง 53.7% ทั้งนี้กำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกปี 2566 เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ปรับตัวลดลง 70.7 ล้านบาท หรือลดลง 51.8% โดยมีอัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 9.0%
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า SCM มีแนวโน้มเติบโตจากการรออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างผลิตสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้ง SCM มีฐานสมาชิกที่เติบโตสูง ซึ่งเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการในระยะยาว