พิษภาษีทรัมป์ ชาวอเมริกันเจอสินค้าแพง

ผู้ค้าและผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดี) ว่า ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ เผชิญกับราคาสินค้าอาหารหลักอย่างกาแฟและน้ำส้มที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยึดมั่นตามแผนการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากบราซิลร้อยละ 50
พวกเขากล่าวว่า ภาษีนำเข้าที่เสนอนี้ จะทำให้การส่งออกกาแฟบราซิลไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด หยุดชะงัก เนื่องจากทั้งผู้คั่วกาแฟและผู้ส่งออกของสหรัฐฯ จะไม่สามารถปิดช่องว่างราคาที่เกิดจากภาษีนี้ได้
ทรัมป์ ประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าใหม่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากบราซิลเป็นร้อยละ 50 จากเดิมร้อยละ 10 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม แม้ว่าสหรัฐฯ จะได้เปรียบดุลการค้ากับบราซิลถึง 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจากสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของกลุ่มผู้ส่งออก Cecafe ของบราซิล พบว่า ประมาณหนึ่งในสามของกาแฟที่บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ดื่มกาแฟมากที่สุดในโลก มาจากบราซิล ซึ่งในปี 2567 บราซิลส่งออกกาแฟไปยังสหรัฐฯ ขนาด 60 กิโลกรัม ถึง 8.14 ล้านถุง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากปี 2566
ส่วนน้ำส้มที่ขายในสหรัฐฯมากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากบราซิล ขณะที่ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ยังจำหน่ายน้ำตาล ผลิตภัณฑ์จากไม้ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์น้ำมันอีกด้วย
โฮเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาเมื่อเดือนที่แล้วว่า ทรัพยากรธรรมชาติบางชนิดที่ไม่มีในสหรัฐฯ เช่น ผลไม้เมืองร้อนและเครื่องเทศ อาจได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากร ขึ้นอยู่กับการเจรจากับประเทศผู้ผลิตและส่งออก
สหรัฐฯผลิตกาแฟได้เพียงเศษเสี้ยวของปริมาณที่ใช้ โดยมีฟาร์มในฮาวายและอีกไม่กี่แห่งในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำส้มมากขึ้น เนื่องจากผลผลิตภายในประเทศลดลงอย่างมากจากโรคพืช “กรีนนิ่ง”, พายุเฮอริเคน และอุณหภูมิที่หนาวเย็นจัด
รายงานที่ออกโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ คาดการณ์ว่า ผลผลิตส้มของสหรัฐฯ จะต่ำสุดในรอบ 88 ปีในฤดูกาล 2567/68 ขณะที่ผลผลิตน้ำส้มจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
บราซิลยังส่งออกเนื้อวัวไปยังสหรัฐฯ ในปริมาณเล็กน้อย และภาษีศุลกากรนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ผลิตปศุสัตว์ของสหรัฐฯ
ในด้านพลังงาน บราซิลเป็นผู้ผลิตเอทานอลเชื้อเพลิงชีวภาพจากอ้อยหรือข้าวโพดรายใหญ่อันดับสองของโลก โดยผลิตเอทานอลได้ประมาณ 35,000 ล้านลิตรในปี 2567 แต่ส่งออกน้อยกว่าร้อยละ 6 ซึ่งมีเพียงประมาณ 300 ล้านลิตรเท่านั้นที่ส่งไปยังสหรัฐฯ
ในจดหมายถึงประธานาธิบดีบราซิล ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งระบุถึงแผนภาษีศุลกากร ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นการโจมตีของบราซิลต่อการเลือกตั้งเสรี, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และกิจกรรมการค้าดิจิทัลของบริษัทสหรัฐฯ